บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2014

ซ่อมไฟล์ AVI

รูปภาพ
วันนี้ไปเจอไฟล์ AVI ที่เป็นไฟล์วิดีโอ เปิดด้วย VLC ไม่ได้ บอกว่า ไฟล์เสีย  บอกว่า Broken or missing AVI Index การซ่อมไฟล์ AVI มีโปรแกรมฟรี หลายโปรแกรม เช่น DivFix++, BandiCam/BandiFix,  Remo Repair AVI และ Digital Video Repair เป็นต้น บางโปรแกรมเป็น Freeware และบางโปรแกรมเป็น Shareware Freeware หลายตัว มี Adware หรือ Malware แถมมาให้ด้วย ดังนั้นเวลาติดตั้ง ต้องค่อย ๆ ทำ ดูให้ดีก่อนคลิก OK หรือ Next บางโปรแกรมร้ายมาก ถ้าไม่ติดตั้ง Adware ก็จะไม่สามารถทำงานได้ Shareware ดูจะดีกว่า แต่ต้องดูว่า สิ่งที่เราต้องการ สามารถทำได้หรือไม่ ไฟล์ AVI ที่มีปัญหา สามารถใช้โปรแกรม VideoLAN หรือ VLC แก้ไขได้ ดาวน์โหลดโปรแกรม VideoLAN ได้ที่ http://www.videolan.org/vlc/ โปรแกรม VLC เป็นโปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอได้หลายชนิด เป็น Freeware ที่ได้รับความนิยมสูง และปลอดภัย ไม่มี Adware หรือ Malware โดยปกติ VLC จะแจ้งให้ทราบว่าไฟล์ AVI เสีย ไม่สามารถเล่นได้ แต่จะถามว่า จะซ่อมให้เอาหรือไม่ ถ้าให้ซ่อม ก็จะซ่อมให้ ตามรูปข้างบน แต่จะไม่บันทึกไฟล์ เมื่อจะเล่นใหม่ จะถามอย่างนี้ทุกครั้ง และต้องเสียเวลาให้ทำก

การทดสอบ t-test แบบ Dependent ด้วย Excel 2010 และ การแปรผล

รูปภาพ
การทดสอบ t-test แบบ Dependent  การทดสอบ t-test แบบ Dependent เป็นการทดสอบข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียวกัน เช่น เปรียบเทียบผลการทดสอบก่อนเรียนและผลการสอบหลังเรียนของผู้เรียนกลุ่มเดียวกัน ว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่ เป็นต้น บางทีก็เรียกว่า เป็นการทดสอบ t-test แบบจับคู่ หรือ Paired t-test ตัวอย่างการวิเคราะห์ค่า t-test ด้วย Excel โปรแกรม Microsoft Excel นอกจากมีสูตรที่เป็น Worksheet functions แล้ว ยังมีเครื่องมือ Add-Ins สำหรับการทดสอบทางสถิติ ซึ่งเรียกว่า Analysis ToolPak ที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ค่าทางสถิติโดยเฉพาะอีกด้วย เครื่องมือนี้ มีมาให้พร้อมใช้งาน แต่ยังไม่ได้ติดตั้ง ต้องติดตั้งก่อน จึงจะใช้งานได้ สำหรับ Excel 2010 มีวิธีการติดตั้ง ดังนี้ ไปที่เมนูบนแถบริบบิ้น แฟ้ม > ตัวเลือก > Add In เลือก จัดการตัวเลือกของ Add In และคลิก ไป จะเกิดหน้าจอ คลิกเลือก Analysis ToolPak ตรวจสอบที่เมนูบนริบบิ้น ที่เมน ข้อมูล จะเห็นมี Data Analysis เกิดขึ้น การวิเคราะห์ค่า T-test ด้วย Excel ก่อนจะทำการทดสอบ ต้องมีการตั้งสมมุติฐานก่อน ตั้งสมมุติฐานแบ

การตรวจสอบตัวเลข ด้วย vba

รูปภาพ
การตรวจสอบว่า ข้อความที่พิมพ์เข้ามาเป็นตัวเลขหรือไม่ เราใช้ฟังก์ชัน isNumeric() เพื่อตรวจสอบ แต่ฟังก์ชันนี้ ยังอาจจะไม่ได้ตรงตามที่เราต้องการมากนัก เนื่องจาก ยังอนุญาตให้มีเครื่องหมาย ต่าง ๆ เช่นคอมม่า เครื่องหมาย + เป็นต้น และที่สำคัญคือ ถ้ามีการใช้ตัวอักษร d หรือ e ผสมกับตัวเลข ก็จะถือว่า เป็นตัวเลขด้วย เช่น 10E14 ฟังก์ชัน isNumeric() จะถือว่า เป็นตัวเลข เพราะ จริง ๆ ก็คือตัวเลขชนิดหนึ่งเหมือนกัน เป็น Scientific Notation แต่จริง ๆ เราต้องการให้ตรวจสอบว่า เป็นตัวเลข ตั้งแต่ 0 ถึง 9 เท่านั้น ไม่ต้องการให้มีเครื่องหมายใด ๆ หรือ ตัวอักษรใด ๆ ทั้งสิ้น  เช่น ต้องการตรวจสอบว่า พิมพ์รหัสไปรษณีย์ โดยไม่มีตัวอักษรใด ๆ ปนเข้ามา หรือไม่ เป็นต้น ในกรณีอย่างนี้ เราต้องเขียนฟังก์ชันให้ตรวจสอบเอง โดยการเปรียบเทียบจากตัวอักษรที่กำหนด ฟังก์ชันที่ใช้ในการเปรียบเทียบ คือ instr() ดังต่อไปนี้ Function IsAllNumber(str As String) As Boolean Dim allowedChar As String     allowedChar = "1234567890"     For i = 1 To Len(str)         If InStr(allowedChar, Mid(str, i, 1)) = 0 Then      

การแสดงค่าเริ่มต้น ของ Combo Box (MS Access)

รูปภาพ
Combo Box ใน MS Access มีประโยชน์สำหรับเลือกรายการ แล้วนำไปค้นหาข้อมูล เช่น อาจจะนำมาแสดงใน subForm ดังตัวอย่างข้างล่าง ในกรณีข้างต้น เป็นการกำหนด Query ใน Row Source ของ Combo Box ให้เลือกข้อมูลจากตาราง โดยมีการรวมฟิลด์ในตาราง เสียใหม่ โดยใช้ Query ดังนี้ SELECT tblTeachers.tchr_idCardNum, [title] & [fname] & " " & [lname] AS name, tblTeachers.fname FROM tblTeachers ORDER BY tblTeachers.fname; ปัญหาอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อเปิดฟอร์มมาครั้งแรก จะไม่มีข้อมูลใน Combo Box และใน Subform ก็จะไม่มีข้อมูลใด ๆ ดังนั้น จึงต้องไปกำหนดค่า Default Value เสียก่อน แต่จะไม่สามารถพิมพ์ข้อความเข้าไปตรง ๆ ได้ เนื่องจากเป็นการใช้ Query ไม่ใช่เป็นการพิมพ์ค่าเข้าไปเองตรง ๆ ดังนั้นจึงต้องอ้างอิงค่าจากตัวของมันเอง โดยใช้ itemData ซึ่งเป็น Property ของ Combo Box ทั้งนี้ต้องระบุตำแหน่งแถวรายการข้อมูลที่้ต้องการให้แสดง (ตำแหน่งแถว เริ่มต้นที่ 0) เช่น              =[cboTeachers].[ItemData](0) เมื่อเปิดฟอร์มครั้งแรก ฟอร์มจะไม่ว่างเปล่า แต่จะนำข้อมูลมาแสดงให้เห็น ดั

php session กับ domain name ที่มี www และ ไม่มี www

รูปภาพ
ปวดหัวอยู่หลายวัน กับเรื่อง Session ของ PHP เรื่องก็มีอยู่ว่า ใช้ Session ของ PHP ในหน้ารายวิชา เพื่อจำเลขประจำตัวของผู้ใช้ เพื่อนำมาใช้หาข้อมูลหรือเก็บข้อมูลของผู้ใช้ ในหน้าอื่น ๆ เช่น เก็บคะแนนในหน้า Pretest, Posttest, และการแสดงผลการเรียน เป็นต้น ปัญหาคือ ใช้กับ Chrome แล้ว ปรากฏว่า Session หาย เมื่อคลิกกลับไปหน้าเมนูหลัก คือ พออยู่หน้ารายวิชา มี Session แจ้งบอกว่า ใคร กำลัง login อยู่ แต่พอคลิกกลับไปหน้าเมนูหลัก และคลิกกลับมาที่หน้าวิชาเดิม ปรากฏว่า ไม่เห็นมีชื่อคนที่ login ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ logout ใช้กับ Browser อื่น ๆ เช่น IE กลับไม่มีปัญหาอะไร ใช้ได้ตามปกติ สาเหตุ Server ที่ใช้งาน กำหนด Domain โดยไม่ต้องมี www นำหน้า เช่น elearning-xyz.net ก็เข้าไปที่เว็บได้เลย การลิงค์จากหน้าเมนูหลัก ไปยังหน้าวิชา ใช้การลิงค์แบบไม่มี www เช่น elearning-xyz.para.htmlดูเหมือนว่า Chrome จะไม่เติม www นำหน้าให้ แต่  Browse เติมให้ เป็น www.elearning-xyz.net/para.html จึงทำให้ Session ยังคงอยู่ ผมก็ไปแก้ลิงค์ใหม่ ให้เป็น www.elearning-xyx.net/para.html ทั้งหมด ดูเหมือนว่า จะแก้ปัญห

เคล็ดลับ การใช้ MS Word

รูปภาพ
เคล็ดลับ การใช้ MS Word จะนำเอาปัญหาปวดหัว และการแก้ไข เกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรม MS Word ปัญหา เมื่อลากดำข้อความที่กำหนด และปรับเปลี่ยนตัวอักษร เช่น ปรับเป็นตัวหนา ข้อความอื่น ๆ เปลี่ยนตามไปด้วย แต่เมื่อคลิก เลิกทำ หรือ Undo ข้อความอื่น ๆ ก็จะกลับเป็นตัวปกติ เหมือนเดิม คงเหลือแต่เฉพาะข้อความที่ลากดำไว้เท่านั้นที่เป็นตัวหนา ตามที่ต้องการ ลากดำข้อความ กำหนดตัวหนา ทำให้ตัวหนาทั้งหมด คลิก เลิกทำ (Undo) ข้อความกลับเป็นปกติ สาเหตุ                 เนื่องจากส่วนที่ลากดำ มีการกำหนด Style เอาไว้ และมีการเลือกให้เปลี่ยนโดยอัตโนมัติ จึงทำให้ข้อความใน Style ที่กำหนดถูกเปลี่ยนไปด้วย วิธีแก้ไข ลากดำข้อความที่เป็นปัญหา คลิกขวาที่ตัวเลขหัวข้อ และ เลือก ลักษณะ > รายการย่อย หรือ เปิด Style ของข้อความนั้น (ไปที่เมนู หน้าแรก กลุ่มลักษณะ และคลี่ดู Style ถ้าไม่เห็น ให้เลื่อนดูลงมา จะเห็น Style ของข้อความที่ลากดำ มีลักษณะกรอบสีเหลืองล้อมรอบ) คลิกขวาที่ Style และเลือก ปรับเปลี่ยน คลิกเครื่องหมายถูก หน้า ปรับปรุงอัตโนมัติออกไป และอย่าลืม คลิกถูกหน้าข้อความ เอกสารใหม่ที่ใช้แม

การใช้ Combo Box ของ Access 2010

รูปภาพ
Combo Box ของ Access 2010 มีไว้สำหรับการเลือกข้อมูล ซึ่งอาจจะกำหนดเอง หรือให้เลือกข้อมูลจากตาราง หรือ Query มาแสดงให้เลือกก็ได้ เช่น การสร้าง Combo Box โดยใช้ ตัวช่วยสร้าง (Wizards) สร้างฟอร์มเปล่า (Blank form) เลือก Design View  เนื่องจากเราต้องการใช้ตัวช่วยสร้าง Combo Box จึงต้องเลือก Use Control Wizards (ปกติจะถูกเลือกอยู่แล้ว ถ้าไม่ถูกเลือก ต้องคลิกเลือกเสียก่อน) คลิกเลือกเครื่องมือ Combo Box วาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในบริเวณที่ต้องการสร้าง Combo Box จะเกิดหน้าจอตัวช่วยสร้างขึ้น ระบุให้ใช้ข้อมูลจากตาราง หรือ Query ที่มีอยู่แล้ว หรือ จะพิมพ์ข้อความเข้าไปเอง ก็ได้ ทำตามหน้าจอจนจบ จะได้ Combo Box ที่ต้องการ การปรับแต่งการใช้งาน Combo Box การกำหนดให้ใช้ได้เฉพาะข้อความที่ให้เลือกเท่านั้น ที่มุมมองออกแบบ คลิกขวาที่ Combo Box เลือก Properties หรือ คุณสมบัติ กำหนด Limit to list เป็น Yes การรวมฟิลด์ หลายฟิลด์ เป็นฟิลด์เดียว โดยปกติ เรามักจะแยก คำนำหน้าชื่อ ชื่อ และนามสกุล ออกเป็น 3 ฟิลด์ เพื่อสะดวกในการเรียงชื่อ เมื่อต้องการนำฟิลด์ทั้ง 3 มาแสดงใน Combo Box โดยร