บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ สุขภาพ

ใบมะรุม มีประโยชน์อย่างไร

รูปภาพ
มะรุมเป็นต้นไม้มหัศจรรย์ จัดเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ในตำรายาพื้นบ้าน ใช้ใบมะรุมพอกแผลช่วยห้ามเลือด ทำให้นอนหลับ เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ และช่วยแก้ไข้ เป็นต้น ประโยชน์ของใบมะรุม ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เนื่องจากใบมะรุมมีศักยภาพในการลดคอเรสเตอรอล จึงทำให้อัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจลดลง นอกจากนี้ มะรุมยังเป็นแหล่งแร่ธาตุโดยเฉพาะสังกะสี(zinc) ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก จึงช่วยจัดการระดับน้ำตาลในเลือดได้ เป็นการช่วยควบคุม หรือแม้กระทั่งป้องกันโรคเบาหวานได้ เป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระ มะรุม มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น quercetin และ chlorogenic acid ผงใบมะรุมบด ช่วยเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือด ช่วยการนอนหลับให้ดีขึ้น ใบมะรุมช่วยเพิ่มพลังงาน ให้วิตามินและแร่ธาตุแก่ร่างกาย ช่วยลดการอักเสพ เมื่อมีอาหารดี ก็จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้นด้วย ช่วยระบบการย่อย ผู้ที่เป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง ท้องอืด และท้องผูก ควรเพิ่มใบมะรุมลงในรายการอาหารด้วย สารประกอบที่สําคัญในใบมะรุม มะรุมมีสารฟลาโวนอยด์สําคัญคือ รูทิน และเควอเซทิน (rutin และ quercetin) สารลูทีน และกรดแคฟฟีโอลิลควินิก (lutein และ caffeoylqu

มากินผัก ผลไม้ สีแดง กันเถอะ

รูปภาพ
ผ้กผลไม้ที่มีสีแดง ช่วยต้านทานโรค เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยการไหลเวียนของโลหิต บำรุงสายตา ช่วยลดความเสี่ยงจากมะเร็ง โดยเฉพาะ มะเร็งปอด ทรวงอก และอัณฑะ ผักผลไม้สีแดง เช่น แตงโม มะเขือเทศ สตรอเบอรี่ แก้วมังกร มีไลโคปีน (lycopene) ซึ่งเป็นแคโรทีนอยด์(carotenoid)ชนิดหนึ่ง ทำให้ผักผลไม้มีสีต่าง ๆ เช่น สีแดง สีเหลือง สีส้ม แคโรทีนอยด์ เป็นเคมีของพืช( phytonutrients )ที่ช่วยให้พืชมึความต้านทานต่อโรคและแมลง  เคมีของพืช( phytonutrients ) นอกจากจะช่วยดูดซับพลังงานจากแสงแดด(light energy) สำหรับการสังเคราะห์แสงแล้ว ยังช่วยปกป้องชีวิตของพืชให้สามารถเจริญเติบโตได้ เช่น ไม่ให้แมลงมากัดกินตาที่จะงอกเป็นกิ่งก้าน ดอกและใบ สร้างกลิ่น สี และรสชาดที่ทำให้คนและสัตว์ไม่ชอบกิน(หรือชอบกิน) ตลอดจนต้านมลภาวะต่าง ๆ ให้แก่พืช เป็นต้น เมื่อเรากินพืชผัก ผลไม้ ก็จะได้ประโยชน์จาก เคมีของพืชด้วย เช่น เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ(antioxidants) กระตุ้นเอนไซม์ (Enzyme)เป็นตัวจุดประกายของชีวิตในร่างกาย แทรกแซงการแบ่งตัวของ DNA ในร่างกาย กำจัดแบคทีเรีย ผสานผนังเซลล์ของร่างกาย ตลอดจนทำหน้าที่เสมือนยามคอยดูการเคลื่อนไหวของโรคร้ายต่าง ๆ

มะม่วงหิมพานต์ ของดีสมราคา

รูปภาพ
 มะม่วงหิมพานต์ มีประโยชน์มหาศาล มีน้ำตาลน้อย มีเส้นใยอาหารสูง มีไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและหัวใจ และมีโปรตีนจากพืช ตลอดจนมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และเป็นขุมพลังให้ร่างกาย ต้นกำเนิดของมะม่วงหิมพานต์อยู่ที่ประเทศบลาซิล ถูกนำมาแพร่กระจายโดยพ่อค้าวาณิช สมัยโบราณ ที่ค้าขายระหว่างประเทศต่าง ๆ มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ยืนต้น ให้ผลตลอดปี ประโยชน์ ส่งผลดีต่อหัวใจ มะม่วงหิมพานต์ ช่วยลดคอเรสเตอรอล ลดไขมันตัวร้าย LDL และเพิ่มพลังให้กับไขมันตัวดี HDL ทำให้สามารถนำพาไขมันจากหัวไปไปสู่ตับ เพื่อกำจัดต่อไป วารสาร the New England Journal of Medicine (NEJM) รายงานเกี่ยวกับการกินมะม่วงหิมพานต์ กับ อัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ มะเร็ง และโรคทางระบบหายใจอื่น ๆ ว่า มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน โดยระบุว่า สารอาหารในมะม่วงหิมพานต์ เช่น ไขมันไม่อิ่มตัว โปรตีน เส้นใยอาหาร วิตามิน เกลือแร่ และตัวต่อต้านอนุมูลอิสระ อาจจะมีคุณสมบัติในด้านการปกป้องหัวใจ ต้านสารก่อมะเร็ง และต้านการอักเสบ ( heart -protective, anti-carcinogenic and anti-inflammatory properties ) ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับเลือด การกินมะม่วงหิมพานต์อาจจะ

มันแกว ของถูกและดี กินแทนข้าว

รูปภาพ
ใครที่มองหาว่า กินอะไรแทนข้าวดีนะ เพราะไม่อยากกินแป้งมาก นี่เลยครับ มันแกวเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ทีแรกนึกว่ามันแกวเป็นพืชท้องถิ่นพื้นบ้านของไทย เพราะเคยเห็นมาตั้งแต่เด็ก และราคาก็ไม่แพง แต่ที่ไหนได้ ความจริงมันแกว เป็นพืชท้องถิ่นของคาบสมุทรแมกซิโก มีชื่อว่า ฮิกกาม่า  (jicama) หรือ อีกชื่อคือ Jambean ม้นแกว เต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มีแคลอลี่ต่ำ มีใยอาหาร (Fiber) สูง และมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น Vitamin C Folate  Iron Magnesium Potassium และ Manganese เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้เป็นเบาหวาน หรือต้องการลดน้ำหนักมันแกวแม้ว่าจะเป็นมันชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับ มันเทศ แต่เมื่อ เปรียบเทียบกันแล้ว พบว่า มันแกวมีแป้ง (starch) น้อยกว่ามันชนิดอื่น ๆ เช่น มันฝรั่ง และหัวบีท เป็นต้น โดยเฉพาะ Manganese ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่ร่างกายต้องการไม่มาก แต่ขาดไม่ได้ เพราะ Manganese มีบทบาทสำคัญในการบำรุงรักษากระดูกให้แข็งแรง ช่วยระบบการเผาผลาญอาหาร (metabolism) ช่วยดึงดูดแคลเซี่ยม ช่วยการทำงานของต่อมไธรอยด์ ปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ และช่วยย่อยไขมันและคาร์โบไฮเดรท เป็นต้น ถ้าขาด Manganese ร

แก้วมังกร ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

รูปภาพ
แก้วมังกร นอกจากดอกจะสวย ผลสีแดง คล้ายเกล็ดมังกรแล้ว ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง ที่น่าสนใจมากทีเดียว   Dr. Jose Axe  ใช้สโลแกนว่า อาหารเป็นยา (Food is medicine.) บอกถึง คุณค่าของ แก้วมังกร หรือ Dragon fruit ไว้อย่างน่าสนใจว่า เพิ่มพลังให้แก่ภูมิค้มกัน ของร่างกาย เพราะมี ฟลาวานอย (flavonoids) และอุดมไปด้วยวิตามินซี อีกทั้งแก้วมังกร ยังเป็นตัวต้านทานอนุมูลอิสระ ในระดับต้น ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมี วิตามิน B1 B2 และ B3 มี แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก โปรตีน ไนอาซิน และ ใยอาหาร ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยเพิ่มพลังให้แก่ภูมิคุ้มกัน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าภูมิคุ้มกันดี ก็จะห่างไกลจากโรคร้ายและความเจ็บป่วย วารสาร Journal of Food Science รายงานการวิจัยว่า โพลิฟินอล และฟลาวานอย ที่สกัดได้จากเนื้อและเปลือกแก้วมังกรชนิดเนื้อสีขาวและสีแดง ยังช่วยสะกัดเซลมะเร็งได้หลายชนิด  ช่วยระบบย่อยอาหาร แก้วมังกรมีใยอาหาร ที่จะช่วยให้ระบบลำไส้ทำงาน ไม่ทำให้ท้องผูก ป้องกันการเกิดระคายเคืองในลำไส้ แก้วมังกรสด มีใยอาหาร  1 กรัม ต่อเนื้อแก้วมังกร 100 กรัม แต่ถ้าตากแห้ง จะมีใยอาหาร 10 กรัม ต่อเนื้อ 100 กรัม ซึ

อันตรายจากโทรศัพท์มือถือ

รูปภาพ
พูดกันมากเรื่องอันตรายจากคลื่นวิทยุ (radiofrequency - RF)จากโทรศัพท์มือถือ มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายที่ต่อต้านโดยเฉพาะจากทางผู้ผลิตมือถือ ซึ่งถึงปัจจุบันก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ มาถึงวันนี้ (ข่าวจาก  www.forbes.com เมื่อ DEC 16, 2017 @ 10:37 AM) สำนักงานสาธารณสุขของรัฐคาลิฟอร์เนียร์ (the California Department of Public Health - CDPH) ได้ออกประกาศคำแนะนำอย่างเป็นทางการ ให้ลดการใช้งานโทรศัพท์มือถือ คำแนะนำส่วนหนึ่ง มีดังนี้

ใบหม่อน กินแล้วได้อะไร

รูปภาพ
ฝนตกชุก ต้นหม่อนงาม ใบแตกสะพรั่ง ใบหม่อน ใช้เลี้ยงไหม เพื่อเอามาทอผ้าไหม ใบหม่อน หนอนกินได้ คนก็น่าจะกินได้เช่นกัน เห็นเขาว่า บางคนเอาไปใส่ก๋วยเตี๋ยว บางคนเอาไปต้มไก่ ใบหม่อน กินแล้วได้อะไร 

เกี่ยวกับ คอเลสเตอรอล: เรื่องต้องรู้

รูปภาพ
มารู้จัก คอเรสเตอรอล(Cholesterol) ของทุกคน แปลกใจไหม ถ้าจะบอกว่า คอเลสเตอรอลเป็นสิ่งดีและมีประโยชน์ ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอย่างที่คิด คอเลสเตอรอลเป็นสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นและใช้เพื่อรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพสมบูรณ์ คอเรสเตอรอล พบในกระแสเลือดและในเซลล์ทุกเซลล์ของร่างกาย คอเรสเตอรอลช่วยสร้างเยื่อหุ้มเซลล์( cell membranes ) ช่วยนำพาไขมันไปในกระแสเลือด ช่วยสร้างฮอร์โมนให้แก่ร่างกาย วิตามินดี และ กรดไบ ( bile acids ) ซึ่งช่วยในการย่อยไขมัน คอเรสเตอรอลยังช่วยด้านความจำ และการทำงานของสมองอีกด้วย โดยเฉพาะในด้านการทำงานของสมอง นับได้ว่า คอเรสเตอรอลมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก คอเรสเตอรอลจำนวนประมาณ 3 ใน 4 ของจำนวนคอเรสเตอรอลทั้งหมดในร่างกาย สร้างขึ้นจากตับของคนเรา หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คอเรสเตอรอลส่วนใหญ่ที่มีในร่างกายของเรานั้น เกิดขึ้นจาก  ตับของเราสร้างขึ้น  นั่นเอง LDL และ HDL Cholesterol โมเลกุล ชื่อ  lipoproteins เป็นโมเลกุลที่พาคอเรสเตอรอลไปในกระแสเลือด โมเลกุล lipoproteins มี 2 ชนิดคือ  LDL ( low-density lipoprotein) และ HDL (high-density lipoprotein) ซี่งเรียกว่าเป็น LDL Cholesterol แล

มังสวิรัติ กับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ และโรคหัวใจ

รูปภาพ
คิดว่า มังสวิรัติ ซึ่งกินผักที่มีเส้นใยสูงช่วยให้ระบายท้องได้ดี ไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องมะเร็งลำไส้ แต่วันนี้ฟังหมอดาเลีย (The Dr Daliah Show Thursday March 2016 Hour 2)  บอกว่า คนกินผัก หรือ Vegetarian หรือ มังสวิรัติ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ (colon cancer) และโรคหัวใจ (heart disease) ผู้ที่มีบรรพบุรุษที่เป็นมังสะวิรัติ หรือ Vegetarian ได้รับการสืบทอดการกลายพันธุ์ในระดับยีนหรือโมเลกุลของดีเอ็นเอ (DNA Gene Mutation) จากบรรพบุรุษ การกลายพันธ์นี้มีประโยชน์คือ ช่วยให้เราสามารถดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นจากพืชได้ แต่มีผลเสียคือ เมื่อเรากินอาหารที่ใช้น้ำมันพืช(vegetable oils) เช่น น้ำมันทานตะวัน ยีนนี้จะเปลี่ยนกรดไขมัน(fatty acids) เป็น กรดแอแลคาโดนิค (arachidonic acid) ซึ่งจะทำให้เกิด inflammation disease (การอักเสพ) ซึ่งจะส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ (colon cancer) และโรคหัวใจ (heart disease) โดยสรุปคือ ผู้ที่เป็นมังสวิรัติ หรือ Vegetarian มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ มากกว่าผู้ที่กินเนื้อ (meat eaters) ประมาณ 40% เป็นวิจัยของมหาวิทยาลัย Cornell University โดย Profes

มะรุม Moringa

รูปภาพ
วันนี้ฟังวิทยุรายการ Gary Null Show วันที่ 10.28.15 พูดถึงใบ Moringa สงสัยว่ามันใบอะไรของมัน ถึงได้มีคุณสมบัติเยอะแยะมากมายมหาศาล แถมมีแหล่งกำเนิดแถว ๆ ภูเขาหิมาลัย ประเทศอินเดียอีกต่างหาก หาความหมายดูจึงเห็นว่าเป็นใบ มะรุม นั่นเอง Gary Null บอกว่ามะรุม มีคุณสมบัติ ยับยั้งการเจริญของเนื้องอก (anti-tumors) แก้อักเสบ (anti-inflammatory)  ต้านแผลในกระเพาะอาหาร (anti-ulcer)  คลายกล้ามเนื้อเกร็ง (antispasmodic)  ต้านความดันโลหิตสูง (anti-hypertensive)  ป้องกัน/บรรเทาโรคเบาหวาน (anti-diabetic)  ต้านเชื้อแบคทีเรีย (anti-bacterial)   และต้านเชื้อรา (anti-fungal) ในใบมะรุม 1 ถ้วย(serving) มีสารอาหารที่มีประโยชน์ ถึง 92 ชนิด เช่น กรดอะมิโน วิตามินซี วิตามินบี 6 โปแตสเซี่ยม แมกนีเซียม เหล็ก แคลเซี่ยม และวิตามินเอ โดยที่สารอาหารแต่ละชนิดมีปริมาณจำนวนมาก เช่น มีวิตามินเอ ถึง 272 % ของจำนวนที่ต้องการในแต่ละวัน  มีแคลเซี่ยม จำนวน 175 % ของจำนวนที่ต้องการในแต่ละวัน Gary Null บอกว่า มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง (anemia) ปวดข้อ ข้ออักเสบ (arthritis และ joint-pain) หืดหอบ (asthma) โรครู

มะม่วงหิมพานต์: ยาเม็ดวิตามินธรรมชาติ

รูปภาพ
มะม่วงหิมพานต์ ได้รับขนานนามว่าเป็น ยาเม็ดวิตามินธรรมชาติ (nature’s vitamin pill) มีแร่ธาตุสารอาหารหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี ทองแดง และแมงกานีส และวิตามินเค ซี่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกาย แมงกานีส ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน ช่วยให้ความจำดีขึ้น ช่วยลดความดันโลหิต ธาตุทองแดงช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหัวใจ และมะเร็ง แมกนีเซียมร่วมกับธาตุทองแดงช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง แมกนีเซียมร่วมกับเมลานิน() และ อีลาสติน() ช่วยให้ข้อต่อยืดหยุ่น ช่วยให้เส้นประสาทให้ทำงานได้ดี นอกจากนี้ มะม่วงหิมพานต์ มี proanthocyanidins ซึ่งช่วยต้านการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ มะม่วงหิมพานต์ช่วยควบคุมน้ำหนัก เพราะมีอัตราส่วนของไขมันที่นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่า เป็นอัตราส่วนที่สุดยอดเพื่อสุขภาพ คือ มี ไขมัน saturated monounsaturated และ polyunsaturated ใน อัตราส่วน 1:2:1 นอกจากนี้ มะม่วงหิมพานต์ ยังไม่มีคอเรสเตอรอล อีกด้วย และแม้ว่า มะม่วงหิมพานต์จะมีไขมัน แต่เป็นไขมันที่ไม่เป็นอ้นตรายต่อหัวใจ และ ถ้าจะเปรียบเทียบปริมาณไขมันในมะม่วงหิมพานต์ จะเห็นว่

ประโยชน์ของ คาร์บอนไดออกไซด์ ต่อชีวิตมนุษย์

รูปภาพ
ดูจากชื่อเรื่อง เหมือนกับจะขัดกับความจริง แต่เป็นความจริง  ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีประโยชน์ต่อชีวิตของมนุษย์ จริง ๆ โดยสรุป ประโยชน์ของ คาร์บอนไดออกไซด์ คือ ช่วยให้ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดปล่อยก๊าซออกซิเจน ให้เซลล์ในร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยธรรมชาติ การทำงานของเซลล์ในร่างกายจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่นเดียวกับการจุดไฟ แล้วจะเกิดควันไฟ ซึ่งก็เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เช่นเดียวกัน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ร่างกายผลิตออกมาจะทำปฏิกริยากับน้ำ เกิดเป็นกรดคาบอริค ความเป็นกรด จะทำให้ค่า PH ของเลือด ลดต่ำลง เมื่อค่า PH ลดลง ก็จะทำให้ความสามารถในการจับยึดก๊าซออกซิเจน (Affinity) ของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดลดลง เป็นผลให้ออกซิเจนที่มากับฮีโมโกลบิน ถูกปล่อยออกไปให้เซลล์ได้นำไปใช้งาน ต่าง ๆ แล้วแต่ว่า เซลล์นั้น ๆ จะมีหน้าที่ทำอะไร สมการ ที่คาร์บอนไดออกไซด์ทำปฏิกริยากับน้ำ เกิดเป็นกรด คือ H 2 CO 3 คือกรดคาร์บอนิค ซึ่งทำให้ค่า PH ของเลือด ลดต่ำลง การออกกำลัง ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อในส่วนที่เกี่ยวข้องทำงานมากขึ้น ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น  และในขณะเดียวกันก็ต้องการออกซิเจนในการทำงานมากขึ้น

คอเรสเตอรอล กินได้ ไม่มีปัญหา

รูปภาพ
ฟังหมอดาเลียนำข่าว จากคณะกรรมการ Dietary Guidelines Advisory Committee ของประเทศอเมริกา ซึ่งกำลังทำรายงานฉบับร่าง เพื่อเป็นประกาศของรัฐบาลสหรัฐ มีข้อความตอนหนึ่งว่า "คอเรสเตอรอลไม่จัดว่าเป็นสารอาหารที่ต้องกังวลว่าจะรับประทานมากเกินไป" เป็นข่าวใหม่ และข่าวใหญ่ โทรทัศน์ค่ายใหญ่ ๆ เช่น NBC และ ABC รวมทั้งหนังสือพิมพ์ Washington Post ก็นำข่าวนี้มาออกเช่นกัน แสดงว่า ไข่แดง กุ้ง ปลาหมึก และอาหารอะไร ๆ ที่มีคอเรสเตอรอลสูง กินได้ ไม่ต้องเป็นห่วง Dr. Dariush Mozaffarian คณะบดีภาควิชา นโยบายและวิทยาศาสตร์โภชนาการ มหาวิทยาลัยทัฟ กล่าวว่า  การรับประทานอาการทีมีคอเรสเตอรอลกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ไม่เกี่ยวข้องกันมากนัก แต่สำหรับคนที่เป็นเบาหวาน อาจจะมีความเสี่ยงสูง Dr. David Katz แห่ง มหาวิทยาลัยเยล กล่าวว่า คอเรสเตอรอลจากการรับประทานอาหาร ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์กับระดับของคอเรสเตอรอลในกระแสเลือด ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับคอเรสเตอรอลในกระแสเลือดเกิดจากไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์ มากกว่า จากการวิจัยในห้องทดลองพบว่า ไข่ไม่มีผลต่อ คอเรสเตอรอลในกระแสเลือด หรือ พูดง่าย ๆ ว่า กินอาหารที่มีค

ประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าว

รูปภาพ
ซื้อน้ำมันมะพร้าวชนิดกลั่นเย็น มา 1 ขวด ที่ตลาดน้ำบางน้อย สมุทรสงคราม เพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์ว่า น้ำมันมะพร้าว ดีมาก คนขายก็บอกว่าดี เพื่อนที่ไปด้วยก็เชียร์ว่าดี ก็เลยซื้อมาลองกินดี รสมัน ๆ อร่อยดีเหมือนกัน ติดใจเลยฝากซื้ออีกขวด ก็เลยหาข้อมูลดูว่า น้ำมันมะพร้าวดีอย่างไร มีเว็บเยอะมาก เกี่ยวกับสรรพคุณของน้ำมันมะพร้าว ลองค้นใน Google คำค้นว่า น้ำมันมะพร้าว กลั่นเย็น ก็จะเห็นมีข้อมูลมากมายทีเดียว ดูไปดูมา สรุปก็คือ ยังสรุปไม่ได้ มีทั้งฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายคัดค้าน ฝ่ายสนับสนุน โดยสรุป คือ น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันอิ่มตัวชนิดโมเลกุลปานกลาง (MCT) ร่างกายสามารถใช้พลังงานได้ทันที โดยเปลี่ยนเป็น ketone มีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยรักษา  Alzheimer น้ำม้ันมะพร้าวยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา อีกด้วย ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าว มีกรดไขมัน และมีสรรพคุณทางยา สมัยก่อนคนคิดว่าน้ำมันมะพร้าวไม่ดี เพราะมีไขมันอิ่มตัว(saturated fat) มากถึงประมาณ 90%  ซึ่งเข้าใจกันว่าจะไปอุดตันหลอดเลือดหัวใจ แต่ความจริงก็คือ ไขมันอิ่มตัวในน้ำมันมะพร้าวไม่เหมือนไขมันอิ่มตัวท

ทับทิม: ผลไม้มากประโยชน์

รูปภาพ
ทับทิม (Pomagranate) ปกติทับทิม 1 ลูก มีประมาณ 600 เมล็ด เมล็ดท้บทิมเหล่านี้ แม้ว่าจะกินแล้วมีความรู้สึกแข็ง ๆ ไม่ค่อยมีความอร่อยเท่าไหร่ แต่มากไปด้วยประโยชน์มหาศาลต่อร่างกาย เพราะ มีแครอลี่ต่ำ มีวิตามินสูง มี สารพฤกษเคมี (Phytochemicals) สูง ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบำรุงหัวใจ และช่วยป้องกัน มะเร็งร้าย ทับทิมให้วิตามินซี และวิตามินเค เมล็ดท้บทิม 100 กรัม มีวิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม (mg) หรือประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนวิตามินซีที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน  (DV -- Daily Value) และมีวิตามินเค จำนวน 16 ไมโครกรัม (mcg) หรือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนวิตามินซีที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน วิตามินซี ช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต้านทานโรคร้ายต่าง ๆ ช่วยรักษาแผล ทำให้เหงือกแข็งแรง และช่วยให้ร่างกายผลิดคอลลาเจน(Collagen) และ อิลาสติน(Elastin) และช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็ก (Iron) ได้ดีขึ้น           คอลลเจน(Collagen) มีหน้าที่สำคัญในการเชื่อมและยึดจับเซลล์เนื้อเยื่อเข้าด้วยกัน เช่น เส้นเอ็น ข้อต่อกระดูกต่างๆ รวมถึงช่วยเสริมการสร้างเนื้อเย

รอยย่นที่หู กับโรคหัวใจ

รูปภาพ
รอยย่นที่หู อาจจะเป็นสัญญานบอกว่า "คุณกำลังเป็นโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด" วันนี้ฟัง หมอดาเลีย Pop quiz ถามว่า สัญญลักษณ์อะไรบนหูที่แสดงว่ากำลังเป็นโรคหัวใจ คำตอบก็คือ รอยย่นที่หู หรือ ear crease หาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า รอยย่นที่หู มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจอยู่มากเหมือนกัน ถ้ามีรอยย่นที่หูดังที่เห็นในภาพ น่าจะต้องไปตรวจเช็คระบบหัวใจให้ละเอียด นายแพทย์ Scott Shurmur แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ประจำที่ University of Nebraska Medical Center บอกว่า รอยย่นที่ว่า ต้องเป็นรอยย่นเส้นตรงเอียงประมาณ 45 องศา ตำแหน่งตามที่เห็นในรูป เท่านั้น ไม่ใช่รอยย่นทั่ว ๆ ไป แต่ก็ไม่ใช่หมายความว่า คนที่มีรอยย่นดังกล่าว ทุกคนจะเป็นโรคหัวใจกันหมด รอยย่อนอาจจะไม่มีผลต่ออะไรทั้งสิ้นก็ได้ แต่ก็อาจจะมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ ประมาณร้อยละ 60 ซึ่งนายแพทย์ Scott Shurmur บอกว่า ก็ไม่ใช่อัตราที่ผิดปกติสำหรับคนทั่วไปเกี่ยวกับโรคหัวใจ มีการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องรอยย่นกับโรคหัวใจหลายเรื่อง บางวิจัยก็สนับสนุน บางวิจัยก็บอกว่าไม่มีความสัมพันธ์กันแต่อย่างใด อาจจะเป็นไปได้ว่า พอคนอายุมากขึ้นก็จะเกิดรอยย

การป้องกันและบรรเทาอาการปวดศีรษะ

รูปภาพ
วันนี้ได้รับอีเมลจากอาจารย์วิไลพรรณ สมตระกูล เรื่องการป้องกันและบรรเทาอาการปวดศีรษะ โดยการยืดเส้นยืดสาย เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ หลายคนออกกำลังด้วยการแกว่งแขน ซึ่งคล้าย ๆ กันการยืดเส้นยืดสายอย่างหนึ่งเหมือนกัน น่าสนใจดี         รู้หรือไม่ว่าการยืดเส้นยืดสายสามารถป้องกันและบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ โดยอาการปวดศีรษะ เป็นอาการที่พบบ่อยมากอาจมีอาการมึนงง ง่วงนอน คลื่นไส้ อาเจียน หรือชาลงไปตามแขน หรืออาจจะมีอาการเหล่านี้โดยไม่มีอาการปวดศีรษะ ส่วนมากมักจะเป็นที่บริเวณหน้าผาก กระบอกตา ขมับ ท้ายทอย อาจจะเป็นทั้งสองข้างหรือข้างเดียว               อาการเหล่านี้เกิดจากสาเหตุที่พบบ่อย คือมีจุดเจ็บหรือตึงในกล้ามเนื้อและพังผืด ที่อยู่บริเวณลำคอ บ่า และบริเวณหลังส่วนบน เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวมีการหดหรือเกร็งตัวเป็นระยะเวลานานจากการใช้แขน และมือทำงานต่างๆ หรือมีท่าทางไม่เหมาะสมการรับประทานยาแก้ปวดหรือคลายกล้ามเนื้อ กดจุดหรือฝังเข็มอาจจะดีขึ้นเพียงชั่วคราวแล้วกลับมาเป็นซ้ำอีก ดังนั้น การบริหารกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ บ่า และหลังส่วนบนด้วยการยืดเหยียด จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการป้องกันและแก้ปัญหา