บทความ

การใช้ the กับชื่อต่าง ๆ เช่น ชื่อแม่น้ำ อ่าว ภูเขา สะพาน เป็นต้น

รูปภาพ
ชื่อแม่น้ำ อ่าว ภูเขา สะพาน ชื่อคน ชื่อประเทศ ต่าง ๆ เหล่านี้ เรียกว่าเป็นชื่อเฉพาะ หรือ คำนามชี้เฉพาะ หรือวิสามานยนาม หรือ Proper Nouns ซึ่งถือว่าเป็นคำนามที่ใช้เรียกชื่อ คน สัตว์ และสิ่งของต่าง ๆ คำนามชี้เฉพาะพวกนี้เมื่ออยู่ในประโยคภาษาอังกฤษ จะต้องใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ขึ้นต้นเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ต้นประโยค หรือส่วนไหนของประโยคก็ตาม เช่น สุดา (ชื่อคน) สามสี (ชื่อแมว) Bangkok (ชื่อเมือง) Mount Everest (ชื่อภูเขา) เป็นต้น คำนามชี้เฉพาะเหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่ต้องมี article นำหน้า แต่บางคำก็มี the นำหน้า ทำให้สับสนอยู่มากเหมือนกัน กฏเกณฑ์ข้างล่าง แต่ละอย่างก็มีข้อยกเว้น จริง ๆ ต้องดูว่า ชื่อแต่ละชื่อ หน่วยงาน/องค์กร เจ้าของ หรือความนิยม เขาใช้กันอย่างไร ก็ใช้ตามนั้น ดาวน์โหลด App สอบ ก.พ. สำหรับ Android ฟรี ที่ Play Store ตามหลักสูตร ก.พ. ใหม่ มีแนวข้อสอบ มากกว่า 1,000 ข้อ มีเฉลยอย่างละเอียด มีคำอธิบายทุกข้อ มีสรุปและเทคนิคการทำข้อสอบ มีชุดข้อสอบให้ลองทำ พร้อมจับเวลา คลิกปุ่มข้างล่าง เพื่อไปดาวน์โหลด หลักโดยทั่วไป โดยทั่วไป ตามปกติ เราจะไม่ใช้ the นำหน้า ชื่อเฉพาะ ท

hair/a hair/hairs

รูปภาพ
โดยทั่วไปเราคิดว่า hair (ผม/ขน) เป็นคำนามที่นับไม่ได้ หรือ uncountable noun เช่น ในประโยคต่อไปนี้ I wash my hair once a week. ฉันสระผมสัปดาห์ละครั้ง I have my hair cut once a month. ฉันตัดผมเดือนละครั้ง My hair is black but it is turning grey. ผมของฉันสีดำ แต่มันกำลังเปลี่ยนเป็นสีเทา My cat loses a lot of hair. แมวของฉันขนร่วงเยอะเลย แต่ในบางโอกาส เราต้องการพูดถึงเส้นผมแต่ละเส้น ซึ่งในลักษณะเช่นนี้แล้ว hair จะใช้เป็นคำนามที่นับได้ หรือ countable noun ทำให้เราสามารถใช้คำว่า a hair หรือ hairs ได้ เช่น There is a hair in my soup. มีเส้นผมเส้นนึงอยู่ในซุปของฉัน I just pulled out one of your white hairs. ฉันถอนผมสีขาวของคุณออกไปเส้นนึง (ในจำนวนหลายเส้น)

การสร้างเส้นขอบให้ตัวอักษร ใน Photoshop

รูปภาพ
ในตัวอย่างนี้ เราจะสร้างเส้นขอบรอบตัวอักษร 2 ชั้น ดังภาพ วิธีการ เปิด ไฟล์ นำภาพเข้า และใช้ Type Tool เขียนข้อความ คลิกที่ชั้นของตัวหนังสือ แล้วคลิกที่ไอคอน Fx ด้านล่าง เลือก Stroke จะเปิดหน้าจอให้ตั้งค่าต่าง ๆ สำหรับ stroke ให้เลือก Fill Type เป็น Color เลือกสีที่ต้องการ และ กำหนดความหนา (Size) เป็น 3 px คลิก OK จะได้ตัวอักษรที่มีเส้นขอบ ดังภาพ สำหรับเส้นรอบตัวอักษรชั้นที่ 2 เราจะคัดลอกเอาสิ่งที่ทำแล้วมาปรับ คลิกขวาที่ชั้นตัวหนังสือที่มีเส้นกรอบที่ทำไว้แล้ว และเลือก Duplicate Layer จะเห็นว่ามีชั้นตัวหนังสือ 2 ชั้น ให้ดับเบิ้ลคลิกที่คำว่า Stroke ของชั้นล่าง จะเกิดหน้าจอให้ปรับค่า ให้เพิ่มค่า Size ให้มากขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนสี เป็นสีอื่น  เมื่อคลิก OK จะได้ตัวหนังสือ ที่มีเส้นขอบ 2 ชั้น คลิกที่บริเวณนอกตัวหนังสือ เพื่อเอาเส้นล้อมรอบตัวหนังสือออก จะได้ ดังภาพ

It doesn't matter. กับ Don't mention it.

รูปภาพ
คำว่า It doesn't matter. กับคำว่า Don't mention it. คนไทยเรามักจะแปลว่า ไม่เป็นไรทั้งสองคำ แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองคำนี้ ใช้ไม่เหมือนกัน It doesn't matter. - ใช้ตอบรับคำขอโทษ เมื่อคิดว่าเรื่องนั้น ๆ ไม่สำคัญ ทำนองว่าเป็นการปลอบใจผู้พูดด้วยว่า ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตัวอย่างประโยค A: I'm sorry. I broke you mug. ขอโทษ ฉันทำเหยือกของคุณแตก B: It doesn't matter. It was old and I was going to throw it away. ไม่เป็นไร มันเก่าแล้ว และผมก็กำลังจะเอาไปทิ้งอยู่แล้ว - มีความหมายเหมือนกับ Never mind. Don't mention it.  - ใช้สำหรับตอบรับคำขอบคุณ ทำนองว่า สิ่งที่ทำให้เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ ตัวอย่างประโยค A: Thank you for the drive. ขอบคุณที่ขับรถมาส่ง B: Don't memtion it. ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น การตอบรับคำขอบคุณ ยังมีอีกหลายคำ เช่น You're welcome.  ด้วย

Do you like ... VS Would you like ....

รูปภาพ
หลายคนมักจะสับสน ระหว่างคำว่า Do you like .... กับ Would you like .... และมักจะใช้สลับกัน ไม่ถูกต้อง Do you like ...  - ใช้ถามเกี่ยวกับความชอบทั่ว ๆ ไป เช่นถามว่า เธอชอบไปซื้อของไหม Do you like shopping? คุณชอบข้าวหรือไม่ Do you like rice? - สามารถตามด้วยคำนาม (ตามตัวอย่างข้างบน) หรือถ้าตามด่วยคำกริยา ก็สามรรถใช้ได้ทั้ง กริยาเติม ing และ กริยาที่มี to นำหน้า เช่น ฉันชอบว่ายน้ำในแม่น้ำ I like swimming in the river. หรือ I like to swim in the river. ดาวน์โหลด App สอบ ก.พ. สำหรับ Android ฟรี ที่ Play Store ตามหลักสูตร ก.พ. ใหม่ มีแนวข้อสอบ มากกว่า 1,000 ข้อ มีเฉลยอย่างละเอียด มีคำอธิบายทุกข้อ มีสรุปและเทคนิคการทำข้อสอบ มีชุดข้อสอบให้ลองทำ พร้อมจับเวลา คลิกที่ปุ่มเพื่อไปดาวน์โหลด Would you like ... - ใช้พูดเมื่อต้องการเสนอ หรือถามความต้องการ เช่น พนักงานบริการ ต้องการถามลูกค้าว่า จะเอากาแฟไหม ถามว

ride, go for a ride, take someone for a ride

รูปภาพ
คำว่า ride มีความหมายได้หลายอย่าง เช่น ride เป็นคำกริยา  หมายถึงเดินทาง โดยใช้ยานพาหนะ  เช่น ขี่ม้า = ride a horse (ride on a horse - แบบอังกฤษ) นั่งรถบัส = ride a bus (ride on a bus - แบบอังกฤษ) ขี่มอเตอร์ไซต์ = ride a motorcycle เป็นต้น ตัวอย่างประโยค Can you ride a bike? คุณขี่จักรยานได้ไหม I learned to ride a bike when I was six. ผม/ฉันหัดขี่จักรยานตอนอายุได้ 6 ขวบ I ride my moped to work. ผม/ฉันขี่มอเตอร์ไซต์ไปทำงาน We rode the train from Ayutthaya to Bangkok. เราโดยสารรถไฟจากอยุธยาไปกรุงเทพ หมายถึงการบังคับ ข่มขู่ให้ทำงาน เช่น Your boss is riding you much too hard at the moment.  หัวหน้าบังคับคุณมากเกินไปนะตอนนี้ ride เป็นคำนาม หมายถึง การเดินทางด้วย ม้า รถ หรือ พาหนะต่าง ๆ  เช่น It's a short bus ride to the airport. นั่งรถบัสไปไม่ไกลก็ถึงสนามบิน I went for a horse ride last Saturday. ผม/ฉันไปขี่ม้าเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว  

การสร้างลิงค์ใน DialogFragment ของ Android 1.5

รูปภาพ
มีหลายครั้งที่เราต้องการสร้างลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บต่าง ๆ ใน DialogFragment ของ Android ดังภาพ หลักการ โดยปกติเราจะไม่สามารถใช้ลิงค์ไปยังหน้าเว็บอื่น ๆ จาก DialogFragment ได้ ถ้าต้องการให้มี Link เราต้องจัดการข้อความที่จะให้แสดง โดยทำให้เป็น SpannableString เสียก่อน ใช้ Linkyfy สร้างลิงค์ นำไปไว้ใน TextView และเอา TextView ไปไว้ใน Dialog อีกที จึงจะได้ลิงค์ตามต้องการ วิธีการ สร้างไฟล์ใหม่ ตั้งชื่อว่า AlertDialogWithLink สร้าง Java Class ชื่อ MyDialogFragment.java สำหรับเป็น adapter สร้าง Dialog MyDialogFragment.java package com.thongjoon.alertdialogwithlink; import android.app.AlertDialog; import android.app.Dialog; import android.app.DialogFragment; import android.os.Bundle; import android.text.SpannableString; import android.text.method.LinkMovementMethod; import android.text.util.Linkify; import android.widget.TextView; public class MyDialogFragment extends DialogFragment { @Override public Dialog onCreateDialog(Bundle savedInstanceState) { //