บทความ

รวมสูตร การปัดเศษ ของ Excel

สูตรข้างล่างนี้ สามารถใช้ได้กับ Excel 2003-2010 สมมุติว่า ในเซลล์ A1 มีข้อมูล 123.456 เมื่อใช้สูตรข้างล่าง จะได้ผลดังนี้     สูตร ผลลัพธ์     ความหมาย =ROUND(A1,2) 123.46 ปัดเศษ ทศนิยมสองตำแหน่ง =ROUND(A1,-1) 120 ปัดเศษ เหลือจำนวนเต็มหลักสิบ =ROUND(A1,-2) 100 ปัดเศษ เหลือจำนวนเต็มหลักร้อย =ROUNDDOWN(A1,2) 123.45 ปัดเศษลง ให้มีจำนวนจุดทศนิยมตามที่กำหนด =ROUNDUP(A1,2) 123.46 ปัดเศษขึ้น ให้มีจำนวนจุดทศนิยมตามที่กำหนด =ODD(A1) 125 ปัดเป็นเลขคี่ =EVEN(A1) 124 ปัดเป็นเลขคู่ =CEILING(A1,0.5) 123.5 ปัดขึ้น เพื่อให้ตัวเลขที่กำหนดหารลงตัว เช่น ใช้ในกรณีที่ต้องกรหลีกเลี่ยงเศษที่ไม่มีหน่วยเงิน เช่น 45 สตางค์ ไม่มีเหรียญ ก็เลยปัดให้เป็น 50 สตางค์ คือ กำหนดให้เป็นทวีคูณของ 50 สตางค์ =FLOOR(A1,0.5) 123 ปัดลง เพื่อให้ตัวเลขที่กำหนดหารลงตัว เช่น หลีกเลี่ยง 45 สตางค์ ก็เลยปัดลงให้เป็น 00 สตางค์ คือให้ 50 สตางค์หารลงตัว หรือ พูดอีกอย่างว่า ให้เป็นทวีคูณของ 50 สตางค์ เป็นต้น =INT(A1) 123 เอาเฉพาะเลขจำนวนเต็ม =TRUNC(A1,2) 123.45 ตัดเอาจำนวนตำแหน่งทศนิยมที่กำหนด ไม่มีการปัดเศษ =MOD(A1,2) 1.4

มะรุม ไม้ต้นที่อุดมด้วยคุณค่า

มะรุม มีชื่อเรียกทางฝรั่งว่า Drumstick tree เป็นไม้ยืนต้นที่มีประโยชน์มาก ทุกส่วนของต้นทีเดียว ตั้งแต่รากจรดไปจนถึงฝักของมันทีเดียว มะรุมได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้ "เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณแม่" น้ำมันจากเมล็ดของมะรุมใช้สำหรับหล่อลื่นนาฬิกา และเป็นส่วนผสมของสี เมล็ดมะรุมป่น ทำให้น้ำตกตะกอนเป็นน้ำบริสุทธิ์ แต่ควรต้มให้เดือดเสียก่อนนำไปดื่ม ยอดอ่อน ดอกอ่อน และฝักอ่อนใช้เป็นผักได้ ใบและดอกมีรสหวานอมขม ผักนิยมใช้แกงส้ม เรียกว่าแกงส้มมะรุม กินกับปลาสลิดทอดเข้ากันได้ดี บางแห่งนำดอกมะรุมมาลวกให้สุก หรือดองกินกับน้ำพริก ชาวอีสานเอายอดอ่อน ใบอ่อน ช่อดอกอ่อน นำไปลวกสุก กินกับแจ่ว ลาบ ก้อย หรือนำไปแกงอ่อมอร่อยดีนัก ฝักมะรุมอ่อนนำมากินเป็นกับแกล้มกับส้มตำก็ดี รากของมะรุม กินได้ มีรสเผ็ด หวาน ขม ใช้แก้อาการบวม บำรุงร่างกาย แก้ปวดข้อ เปลือก รสร้อน ใช้ขับลมในลำไส้ แก้หอบหืด แก้ลมอัมพาต ใบ แก้เลือกออกตามไรฟัน แก้อักเสบ แก้แผล ขับนิ่วในไต ใบมะรุมสดให้แคลอรี่สูง มีธาตุเหล็ก แมงกานีส สังกะสี ทองแดง วิตามินบี วิตามินซี และแคลเซี่ยม นอกจากนี้ ใบมะรุมยังมีสารที่ช่วยต้านมะเร็ง น้ำมันจากเมล็ดม

รักษาหูด ด้วยน้ำและฉาง

รูปภาพ
การรักษาหูดต่อไปนี้ เป็นวิธีรักษาที่ผมใช้ได้ผล แต่ไม่แน่ว่าจะได้ผลสำหรับท่านหรือไม่ เพราะ แต่ละคนต่างกัน เช่น กรรมพันธุ์ต่างกัน อาหารการกินต่างกัน สิ่งแวดล้อมต่างกัน เป็นต้น แต่ถ้าจะลองดู ผมว่าไม่เสียหายนะ วันหนึ่งผมสังเกตว่าที่ข้อพับนิ้วมือ นิ้วชี้ด้านในของมือขวา มีตุ่มเล็ก ๆ เกิดขึ้น ผมจึงเอามือแกะ และหมุน ๆ ทำอยู่เรื่อย ๆ จนในที่สุด มันก็หลุดออกมา อีกสัก 2-3 วัน ตุ่มเก่ามันก็โผล่ขึ้นมาอีก ผมก็ทำเช่นเดิมอีก ทำอย่างนี้อยู่สัก 2-3 เดือนเห็นจะได้ เพื่อนบอกว่าให้ไปให้หมดตรวจดีกว่า เพราะมันน่าจะมีอะไรผิดปกติ ผมก็เลยไปคลินิกหมอที่บางแพ เป็นคุณหมอทำงานที่โรงพยาบาลโพธาราม หมอพิจารณาดูสักพักก็บอกว่า เป็นหูด ต้องไปจี้ออกที่โรงพยาบาลเพราะที่คลินิกไม่มีอุปกรณ์ ผมทราบว่าเป็นหูดก็ค่อยโล่งใจ ผมไม่ได้ไปโรงพยาบาล(ไม่อยากถูกจี้) แต่แกะเหมือนเดิม คราวนี้ ตุ่มบานออกและเป็นแข็ง ๆ ขาว ๆ ไม่เจ็บ แต่ทำให้รำคาญ ผมไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลบางแพ เข้าพบคุณหมอซึ่งบังเอิญเป็น ผอ โรงพยาบาล ตรวจเสร็จผมก็เลยถือโอกาสให้คุณหมอดูนิ้ว และถามว่าเป็นอะไร คุณดูแล้วก็บอกเหมือนกันว่า เป็นหูด ผมก็เลยถามต่อว่า ปล่อยไว้จะเป็

การจัดหน้าเว็บให้อยู่กึ่งกลางเสมอ ด้วย div ของ css

รูปภาพ
การจัดหน้าเว็บให้อยู่กึ่งกลางเสมอ ด้วย div จะทำให้หน้าเว็บของเราอยู่กึงกลางเสมอ ไม่ว่าความละเอียดของหน้าจอจะเป็นเท่าไรก็ตาม ตัวอย่างดังภาพข้างล่างนี้ ถ้าใช้ Dreamweaver ก็สบาย เพราะมีตัวช่วยเยอะ แต่ถ้าจะทำเอง ก็ไม่ยากเย็นอะไร เราจะทำไฟล์ CSS จำนวน 1 ไฟล์ และทำไฟล์ html ที่เรียกใช้การจัดหน้า วิธีการสร้างไฟล์ CSS เปิดโปรแกรม Notepad ที่มีอยู่แล้วในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง หรือ Text editor ที่ท่านถนัด ผมชอบ EditPlus คัดลอก โค้ดต่อไปนี้ไปวาง body { text-align: center; width:100%; background-color:#FFFFCC; margin:0,0,0,0; } #wrapper { text-align: left; width: 640px; height:480px; margin-left: auto; margin-right: auto; background-color:#99CC00; padding:20px; } บันทึกเป็นไฟล์ ชื่อว่า myCenter.css ต่อไปเราจะสร้างไฟล์ hml เพื่อเรียกใช้งาน css ที่สร้างขึ้น วิธีสร้าง html เปิดโปรแกรม Notepad หรือ Text editor คัดลอกโค้ดต่อไปนี้ไปวาง <!DOCTYPE HTML PUBLIC "-//W3C//DTD HTML 4.0 Transitional//EN"> <HTML> <HEAD> <TITLE>

ประโยชน์ของลำไย

รูปภาพ
เชื่อกันว่า กินลำไยมาก ๆ ทำให้ตาแฉะ เจ็บลิ้น ร้อนใน เป็นต้น เขาบอกว่าวิธีแก้คือ ก่อนกินให้ล้างน้ำให้สะอาด หรือเอาไปแช่น้ำเกลือเสียก่อน จะไม่ทำให้เจ็บคอ บางคนบอกว่า วิธีแก้คือ ก่อนกินต้องล้างเปลือก ลำไยให้สะอาดแล้วแกะเปลือกออก เหลือเนื้อติดเม็ดไว้ เก็บใส่กล่องที่มีฝาปิด แช่ในช่องแข็ง เวลากินก็กินทั้งเย็น ๆ ไม่ต้องรอให้ละลาย จะไม่ทำให้เจ็บคอ สรรพคุณทางยาของลำไย ลำไยมีสรรพคุณทางยา ช่วยเจริญอาหาร (stomachic) ลดไข้ (febrifuge) และถ่ายพยาธิ์ (vermifuge) นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในทางแก้พิษ (antidote for poison) อีกด้วย เวียตนามให้เมล็ดลำไยรักษาแผลงูกัดและทำลายพิษงูในร่างกาย ลำไย 1 ผล น้ำหนักประมาณ 3 กรัม ให้สารอาหาร ดังนี้ สารอาหาร ปริมาณ ส่วนประกอบหลัก น้ำ 2.5 กรัม แคลอลี่ แคลอลี่ทั้งหมด 1.8 จากคาร์โบไฮเดรท 1.6 จากโปรตีน 0.1 คาโบไฮเดรท จำนวนคาร์โบไฮเดรท 0.5 กรัม วิตามิน วิตามินซี 2.5 มิลลิกรัม เกลือแร่ แมกนีเซียม 0.3 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 0.6 มิลลิกรัม

อาหารปิ้งย่างกับมะเร็ง

รูปภาพ
หลายคนเชื่อว่า อาหารปิ้งย่าง จะทำให้เกิดมะเร็ง ความจริงก็คือ อาหารปิ้งย่าง ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง แต่การปิ้งย่างที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้กินมีความเสี่ยงกับโรคมะเร็ง กระทรวงเกษตรของอเมริกา (USDA) รายงานว่า มีวิจ้ยบางเรื่องที่พบว่า การกินอาหารที่ทำให้สุกด้วยการใช้ความร้อนสูง เช่น ปิ้ง ทอด หรืออบในเตาอบ อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง แต่จากข้อค้นพบผลการวิจัยปัจจุบัน กลับพบว่า การกินอาหารปิ้งย่าง เช่น หมูปิ้ง ปลาปิ้ง ไก่ย่าง เป็นต้น  ในปริมาณที่พอดี และไม่อยู่ในสภาพไหม้เกรียม โดยใช้ความร้อนที่พอเหมาะ จะไม่ทำให้เสี่ยงต่อปัญหาใด ๆ อาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม ทำให้เกิดสารที่เรียกว่า Heterocyclic Amines (HCAs) ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่(colon cancer) มะเร็งปอด หรือมะเร็งทรวงอก ได้ ถ้ากินจำนวนมากและต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผลสรุปการวิจัยเรื่องนี้ ยังมีผลที่ไม่ค่อยสอดคล้องกัน เช่น บางวิจัยพบว่า ความเสี่ยง ถ้ามีการใช้เครื่องเทศ เช่น สารสกัดจากโรสแมรี่ หรือ เครื่องเทศของไทย ก็จะสามารถลดความเสี่ยงลงได้ Dr. Rashmi Sinha กล่าวว่า อาหารที่ปิ้งย่างด้วยความร้อนสูงทำให้เสี่ยงต่อโรคม

อาหารป้องกันมะเร็ง

รูปภาพ
มะเร็ง เป็นโรคร้าย ใครที่เอาชนะมันได้ ถือว่าเป็นโชคดี ถามว่า มีอาหารอะไรหรือไม่ ที่กินแล้วป้องกันมะเร็งได้ คำตอบคือ มีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ถือซะว่าเป็นวิธีหนึ่งที่อาจจะป้องกันมะเร็งไม่ให้เข้ามากรายใกล้ได้ก็แล้วกัน สมาคมมะเร็งของอเมริกา(American Cancer Society) ระบุว่า หนึ่งในสามของต้นเหตุของมะเร็งคือ อาหารการกินและวิถีการดำรงชีวิต เช่น การออกกำลังกาย เป็นต้น เพราะฉะนั้นอาหารการกินนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยป้องกันจากโรคมะเร็งอีกด้วย ประการสำคัญคือต้องกินอาหารให้หลากหลาย การกินอาหารหลายอย่างจะช่วยกันป้องกันโรคได้ดีกว่าการกินอาหารอย่างเดียว ดร.มิเชล (ดูในแหล่งอ้างอิง) นักโภชนาการของอเมริกา บอกว่า การกินอาหารหลายอย่างจะทำให้ได้สารอาหารหลายอย่างที่ทำงานร่วมกันเป็นทีม ดีกว่า อาหารอย่างเดียว สารอาหารอย่างเดียว ดร.มิเชล บอกว่า อาหารต่อไปนี้ เป็นอาหารที่ช่วยต้านมะเร็งได้ 1. วิตามินดี และแคลเซี่ยม เช่น นมไขมันต่ำ โยเกิต เนย และอาหารที่เสริมด้วยแคลเซี่ยมและวิตามินดี 2. ผักในตระกูล Cruciferous เช่น ผักกาด กะหล่ำดอก บล็อกเคอรี่ คะน้า เป็นต้น 3. อา