บทความ

การสลับเปลี่ยนแถวกับคอลัมน์ Excel ในกรณีที่เซลล์มีสูตร

รูปภาพ
การสลับเปลี่ยนแถวกับคอลัมน์ หรือ Transpose ใน Excel 2010 ทำให้เราทำงานได้รวดเร็วขึ้น ใช้ในหลายกรณี เช่น สลับแถวกับคอลัมน์ ในแผนภูมิ จะช่วยให้ดูแผนภูมิง่ายขึ้น ตรงตามจุดเน้น หรือการนำเสนอข้อมูล ในรูปตาราง ถ้าเปลี่ยนแถวเป็นคอลัมน์ ก็จะดูง่ายขึ้น การนำเสนอข้อมูลตารางนี้ ดูดีมาก ถ้าต้องการเปรียบเทียบผลงานการขายของแต่ละคน แต่ถ้าต้องการ ดูผลงานของแต่ละคน ว่ามีความก้าวหน้าอย่างไร ต้องสลับข้อมูลระหว่างแถวกับคอลัมน์ใหม่ ดังนี้ การสลับเปลี่ยนแถวกับคอลัมน์ใน Excel 2010 สามารถทำได้ง่าย โดยเลือกข้อมูล แล้วไปที่ วาง > วางแบบสลับเปลี่ยนแถวกับคอลัมน์ อย่างไรก็ตาม ถ้าเซลล์ที่ต้องการสลับระหว่างแถวกับคอลัมน์ เป็นข้อมูลธรรมดา เราสามารถทำได้ง่าย แต่ถ้าในเซลล์มีสูตร การอ้างอิงจะไม่ถูกต้อง ส่งผลให้ข้อมูลผิดพลาดไปด้วย การแก้ไขต้องกำจัดสูตรออกจากเซลล์ให้หมด แล้วจึงทำการสลับแถวและคอลัมน์ภายหลัง รายละเอียดดูได้จากวิดีโอนี้

การวิเคราะห์แบบสอบถามด้วย Excel

รูปภาพ
แบบสอบถามลักษณะ Rating scale สามารถวิเคราะห์ได้ด้วยโปรแกรม Excel โดยใช้สูตร countif() และการอ้างอิงเซลล์ (Cell Referencing) ทั้งแบบแน่นอน (Absolute Cell Referencing) แบบเชิงสัมพันธ์ (Relative Cell Referencing) และแบบผสม (Mixed Cell Referencing) แบบเชิงสัมพันธ์ (Relative Cell Referencing) คือไม่มีการ lock คอลัมน์ หรือแถว ตำแหน่งของ Cell จะเคลื่อนที่ตามตำแหน่งของเคอร์เซอร์ แบบแน่นอน (Absolute Cell Referencing) เป็นการ lock ทั้งแถวและคอลัมน์ เช่น $A$1 นั่นคือ Cell ที่ถูกเลือก จะไม่เปลี่ยนตำแหน่ง ไม่ว่าเคอร์เซอร์ จะเคลื่อนที่ไปยังที่ใดก็ตาม แบบผสม (Mixed Cell Referencing) เป็นการ lock เฉพาะแถว หรือ คอลัมน์ อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น $A1 (lock คอลัมน์)หรือ A$1 (lock แถว) ความสัมพันธ์ลักษณะนี้ ตำแหน่งของ Cell ที่ถูกเลือก จะเปลี่ยนแปลงตามตำแหน่งของเคอร์เซอร์ ขึ้นอยู่กับการ lock เช่น ถ้า lock แถว เมื่อตำแหน่งของเคอร์เซอร์เลื่อนลงไป ตำแหน่งของ Cell ที่ถูกเลือกจะไม่เปลี่ยน แต่ถ้า ตำแหน่งของเคอร์เซอร์เคลื่อนไปตามแนวนอน ตำแหน่งของ Cell ก็จะตามไปด้วย ตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นการแสดงการวิเคราะห์แบบสอ

การหาข้อมูลในตารางหนึ่ง ที่ไม่มีในอีกตารางหนึ่ง ของ Access 2010

รูปภาพ
บางครั้งเราต้องการหาว่า ข้อมูลในตารางหนึ่ง ที่ไม่มีในอีกตารางหนึ่ง จะทำอย่างไร สมมติว่า มีข้อมูล 2 ตาราง คือ tblCode และ tblData ตาราง tblCode เก็บรหัสอำเภอ และ tblData เก็บข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ซึ่งมีรหัสอำเภออยู่ด้วย จึงต้องตรวจสอบว่า อำเภอใน tblData มีอยู่ในตาราง tblCode หรือไม่ (ความจริงถ้าออกแบบดี ๆ กำหนดให้ผู้ใช้เลือกจากตัวเลือก จะได้ถูกต้อง และไม่เกิดข้อผิดพลาด ก็จะไม่ต้องมาหาว่า ข้อมูลที่พิมพ์เข้ามาพิมพ์ถูกหรือไม่) ตาราง tblCode ตาราง tblData จากตาราง จะเห็นว่า โพธาราม ในตาราง tblData ไม่มีในตาราง tblCode ในกรณีนี้ เราต้องการหาว่า ข้อมูลในตาราง tblData ที่ไม่มีในตาราง tblCode การหาลักษณะนี้ นอกจากจะหาชื่ออำเภอที่ไม่ปรากฏ ในอีกกรณีหนึ่งคือพิมพ์ชื่ออำเภอผิด เช่น บ้านไร่ พิมพ์เป็น บ้านไร (ลืมใส่ไม้เอก) ก็จะสามารถหาได้ ด้วยวิธีเดียวกันนี้ วิธีการ ให้สร้างแบบสอบถาม ชนิดเลือก (Select Query) และกำหนดความสัมพันธ์ของฟิลด์ที่ต้องการเป็นแบบ LeftJoin โดยให้รวมระเบียนทั้งหมดจากตาราง tblData และ เฉพาะระเบียนจาก tblCode ซึ่งมีเขตข้อมูลที่ใช้ในการรวมเท่ากัน จากความสัมพั

การปรับข้อมูลในตาราง โดยใช้ข้อมูลอีกตาราง Access 2010

รูปภาพ
บางครั้ง เราต้องการตรวจสอบข้อมูลในตารางข้อมูล โดยมีข้อมูลที่ถูกต้องซึ่งเก็บไว้อีกตารางหนึ่ง เช่น  จากตัวอย่างต่อไปนี้ เรามีตารางราง tblCode เก็บรหัสอำเภอ และชื่ออำเภอ ส่วน ตาราง tblData ที่ผู้ใช้กรอกเข้ามา มีข้อมูล รหัสอำเภอ ชื่ออำเภอ ชื่อคน และ อายุ ตาราง tblCode ตาราง tblData เราต้องการตรวจสอบข้อมูล ว่า รหัสอำเภอในตาราง tblData นั้นถูกต้องหรือไม่ โดยให้ตรวจสอบจากรหัสอำเภอ ในตาราง tblCode วิธีการ สร้าง แบบสอบถามชนิดปรับปรุง หรือ Update Query เพื่อให้แก้ไขข้อมูลรหัสอำเภอในตาราง tblData แต่มีข้อแม้ว่า ชื่ออำเภอในตาราง tblData จะต้องถูกต้อง และมีอยู่ในตาราง tblCode ด้วย ขั้นตอน สร้างแบบสอบถาม โดยไปที่แท็บ สร้าง > กลุ่มแบบสอบถาม > ออกแบบ แบบสอบถาม เลือกตาราง tblCode และ ตาราง tblData กำหนดความสัมพันธ์ฟิลด์ที่มีชื่ออำเภอทั้งสอง โดยลากฟิลด์ amph ของ ตาราง tblCode มาวางไว้ที่ฟิลด์ dataAmp ของตาราง tblData จะเห็นว่ามีเส้นความสัมพันธ์เชื่อมฟิลด์ทั้งสองฟิลด์ ดับเบิ้ลคลิกที่ฟิลด์ aCode ของตาราง tblData ซึ่งเป็นฟิลด์ที่เราต้องการตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง ชื่อฟิล

เพิ่มประสิทธิภาพให้สมอง

สมองมีน้ำหนักน้อยกว่า 2% ของน้ำหนักตัวแต่ละคน แต่ใช้ออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไปทุกขณะถึงมากกว่าร้อยละ 20 และใช้น้ำตาลมากกว่าครึ่งหนึ่งของน้ำตาลที่ไหลเวียนในร่างกายสำหรับการทำงานของสมอง สมองเป็นเสมือนผู้บัญชาการใหญ่ของร่างกาย ควบคุมทุกอย่าง ทั้งที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว เช่น การเคลื่อนไหวของอวัยวะต่าง ๆ  การคิด ความรู้สึก ความจำ แม้จนกระทั่งการเต้นของหัวใจ สมองจึงมีความสำคัญต่อเราอย่างมาก Dr. Kyl Smith ให้ข้อมูลว่า การได้รับสารอาหารที่ไม่พอเพียงในแต่ละวัน มีผลต่อการทำงานของสมอง โดยเฉพาะ วิตามิน B6 แมกนีเซียม หรือ สังกะสี อาหารมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของสมอง วิตามิน B6 เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสื่อนำประสาท (Neurotransmitters) 3 ชนิด ได้แก่ serotonin dopamine และ acetylcholine serotonin มีส่วนเกี่ยวข้องกับ อารมณ์ความเซื่องซึม หดหู่ หงอยเหงา (depression)  dopamine ดูแลเรื่อง การเคลื่อนไหว อารมณ์ motivation และ ความสุขความพอใจ ถ้าขาดจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย และการเป็นโรค Parkinson’s disease ความจำเสื่อม ขาดประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา และขาดสมาธิ acetylcholine ช่วยเรื่องสมาธิ ความจ

รักษาต้อหิน ด้วยการนวดตา

รูปภาพ
ผมมีปัญหาเรื่องตา ไปหาหมอตาที่โรงพยาบาลโพธารามอยู่นานเป็นปีแล้ว เห็นใบนัดหมด เห็นเขียนว่า VA และ TN ก็เลยลองค้นดูจาก Google พบว่า VA มาจาก Visual acuity หมายถึง ความคมชัดในการมองเห็น และเห็นมีเว็บหนึ่งอยู่บน ๆ พูดเรื่องต้อหิน และการนวดตา เพื่อรักษา ก็เลยเข้าไปดู น่าสนใจมาก คุณหมอจิตรอัมพร เฟื่องแก้ว หมอที่ผมไปพบประจำบอกวิธีการดูแลตา ว่า ให้ใช้สบู่อ่อนล้างตา และให้ประคบตา ด้วยผ้าอุ่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกันการนวดตา ที่ว่านี่ด้วยเหมือนกัน เป็นการช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น ผมจึงสนใจและลองค้นดู น่าสนใจครับ นายแพทย์สมเกียรติ อธิพลกุลชัย จักษุแพทย์ บอกว่า เดี๋ยวนี้โรคตาไม่ใช่เป็นเฉพาะคนอายุมากเหมือนสมัยก่อนเท่านั้น อายุน้อยก็เป็นกันเพิ่มขึ้น เพราะ คนใช้คอมพิวเตอร์กันมาก นายแพทย์สมเกียรติได้เสนอแนวทางการรักษาด้วยการนวดตา รายละเอียดลองดู รายการบอกเล่าเก้าสิบ ทีวีช่อง 9 ใน Youtube ข้างล่างนี้ น่าสนใจมาก ดูให้ครบทั้ง 2 ตอน นะครับ ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 มีตัวอย่างผู้ที่เป็นโรคต้อหิน และใช้การนวดตา เพื่อรักษา และได้ผล คลิกเพื่ออ่านได้ ที่นี่เลย นายแพทย์สมเกียรติ เขียนเรื่องการนวดตา

การสร้าง Custom Search ใน Blogger

รูปภาพ
Google มี custom search ไว้ให้ก็สะดวกดี สามารถนำมาปะที่ Blogger หรือ blogspot ได้ ทันที แต่บางทีเราต้องการให้ค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลของเราเอง เราจะทำอย่างไร เราต้องเพิ่ม Gadget ใหม่ โดยใช้ HTML สร้างฟอร์ม และให้ฟอร์มไปเรียกข้อมูลในฐานข้อมูลที่ต้องการ เช่น โค้ดสำหรับสร้างฟอร์ม คือ <form action='http://www.crnfe.ac.th/testGetNum.php' method='GET'> <input onblur='if(this.value=="")this.value=this.defaultValue;' onfocus='if(this.value==this.defaultValue)this.value="";' type='text' name='subject' value='พิมพ์ชื่อวิชาที่นี่...'/><input type="submit" value="ตกลง" /><br />พิมพ์ excel หรือ voc </form> ฟอร์มนี้จะไปเรียกใช้ไฟล์ ชื่อ testGetNum.php ซึ่งอยู่ที่ http://www.crnfe.ac.th  ไฟล์นี้ จะทำหน้าที่ไปหาข้อมูลในฐานข้อมูลและนำมาแสดงในหน้าใหม่ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากหน้า Blogger จะเป็น UTF-8 ถ้านำมาแสดงในหน้าเว็บที่ใช้รหัส สมอ. tis-620 จะอ่านกันไม่ออก หรือ ถ้า