บทความ

Excel Web App

รูปภาพ
การใช้งาน Excel บนเว็บ ด้วย Excel Web App ตัวอย่าง ลองเปลี่ยนตัวเลข ภาพกราฟ จะเปลี่ยนตามไปด้วย เว็บแอ็ป (Web App) เป็นโปรแกรมที่จะช่วยให้เราใช้ Office ได้บนอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างข้างบน เป็นการนำเอาบางส่วนของหน้าจอ Excel มาแสดงจริงบนเว็บ ใน Blog ของเรา Web App ใช้ได้บน Skydrive.live.com ซึ่งเป็นของ Microsoft เราเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกได้ฟรี ใครที่มี email ของ hotmail จะมี live ID ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้เลย เขามีพื้นที่ฟรี อย่างพอเพียง การนำ Excel ขึ้น สามารถนำขึ้นได้ทั้งหน้า โดยที่หน้าจอจะคล้ายกับหน้าจอของ Excel จริง สามารถใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ได้มาก แต่ไม่มากเท่ากับ Excel บนเครื่องของเรา วิธีการนำขึ้นบน Skydrive.live.com ทำโดยการสร้างไฟล์ตามปกติ แล้ว login เข้าไปที่ skydrive.live.com และส่งไฟล์ขึ้น ถ้าต้องการแสดงเฉพาะบางส่วนของหน้า ต้องจัดการเสียก่อน ก่อนที่จะนำขึ้น โดย ลากคลุมบริเวณที่ต้องการให้แสดง และตั้งชื่อส่วนนั้น ในกล่องชื่อแล้วไปที่ บันทึกและส่ง และส่งไปที่ Sharepoint แต่ไม่ส่งจริง เพียงไปเลือก ตัวเลือกการประกาศ และระบุส่วนที่ต้องการให้แสดง ตามที่ระบุ จากนั้น จึงนำส่งขึ้น

การหา idMso ของ Excel สำหรับการแก้ไข หรือสร้าง Ribbon

รูปภาพ
เคยพูดเรื่อง การปรับแต่งริบบิ้นของ Office มาครั้งหนึ่งแล้ว โดยเป็นการพูดเรื่องของ ริบบิ้นของ Access คราวนี้ เป็นเรื่องของ Excel บ้าง Excel 2007-2010 ก็สามารถปรับแต่งริบบิ้นได้ เช่นเดียวกัน โดยสร้างไฟล์เป็น XML และนำไปไว้ในไฟล์ของ Excel ที่ต้องการปรับริบบิ้น รายละเอียด ดูที่ http://www.rondebruin.nl/ribbon.htm ประเด็นวันนี้คือ ถ้าต้องการปรับแต่ง คำสั่งหรือปุ่มบนริบบิ้น ต้องทราบ idMso ของคำสั่งต่าง ๆ จะหาได้จากที่ไหน ผมค้นอยู่ในอินเทอร์เน็ต ตั้งนาน จึงพบ วิธีหาว่า idMso ทั้งหมดของ Excel ให้ทำดังนี้ 1. เปิด Excel 2007 หรือ 2010 2. ไปคลิกปุ่ม เพื่อเพิ่มคำสั่งใน ปุ่มเครื่องมือด่วน หรือ Quick Access Toolbar 3.คลิก คำสั่งเพิ่มเติม 4. หาคำสั่งที่ต้องการทราบ idMso 5. นำเมาส์ไปวาง จะเห็นชื่อ idMso ของคำสั่งนั้น ๆ อยู่ในวงเล็บ ข้างล่างนี้คือตัวอย่าง xml ที่กำหนดให้ปุ่ม วาง (Paste) ล้างทั้งหมด(ClearAll) ล้างรูปแบบ(ClearFormats) และล้างข้อคิดเห็น(ClearComments) ไม่ให้ทำงาน <customUI xmlns="http://schemas.microsoft.com/office/2006/01/customui"> <commands>

ผักและผลไม้สีต่างกัน ให้ประโยชน์ต่างกัน

ผักและผลไม้ที่มีสีต่างกัน ให้ประโยชน์แก่ร่างกายต่างกัน การรับประทานผักและผลไม้ที่มีสีต่าง ๆ จึงเป็นการรับประกันว่า ร่างกายจะได้สารอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ ผักผลไม้สีแดง เช่้น มะเขือเทศ แตงโม มะละกอ ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก(prostate cancer) ลดความดันเลือด ลดการเจริญเติบโตของเนื้องอก(tumor)ลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL cholesterol) ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ และช่วยสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน(join tissue)เพราะมีสารอาหารหลายประเภท เช่น ellagic acid Quercetin Hesperidin และ lycopene เป็นต้น โดยเฉพาะ lycopene ช่วยต้านโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิดได้ ผักและผลไม้สีเหลืองหรือส้ม เช่น กล้วย มะม่วง แครอท ช่วยลดการเสื่อมของจอประสาทตา(macula)ในผู้สูงอายุ ลดความเสื่ยงจากมะเร็งต่อมลูกหมาก(prostate cancer) ลดคอเรสเตอรอลตัวร้าย(LDL cholesterol) และลดความดันเลือด มีสารเบต้าแครอทีน(beta-carotene)ซึ่งเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระในธรรมชาติ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโรค(immune system)ของร่างกาย ทำให้กระดูกแข็งแรง ในผักและผลไม้สีเหลืองหรือส้ม มีสารอาหารหลายอย่าง เช่น beta-carotene zeaxanthin flavonoids lycopene pot

อาหารบำรุงสมอง

อาหารบำรุงสมอง มีอะไรบ้าง จะกินอะไรจึงจะทำให้ความจำดีเยี่ยม พัฒนาการของสมองดีเยี่ยม อาหารเพื่อการบำรุงสมอง มีหลายอย่าง สมองจะทำงานได้ดี ต้องการสารอาหารหลายประเภท เราควรเริ่มบำรุงสมองตั้งแต่อยู่ในวัยเด็ก สารอาหารที่จำเป็นสำหรับพัฒนาการของสมอง ได้แก่ โคลีน (choline) และ ดีเอสเอ (DHA)ซึ่งเป็นกรดโอเมก้า 3 ชนิดหนึ่ง โคลีน มีในไข่แดง ตับ จมูกข้าว และถั่วเมล็ดแห้ง และ DHA มีในปลา และนม ดังนั้น เด็ก ๆ จึงควรรับประทานอาหารประเภท ปลา นม ไข่แดง ตับ จมูกข้าวให้มาไว้ก่อน เพื่อการบำรุงสมอง สำหรับผู้ใหญ่ ต้องการสาร ไทโรซีน (tyrosine)โดยเฉพาะ แอลไทโรซีน(L-Tyrosine) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เองจากกรดอะมิโน นอกจากนี้ยังต้องการวิตามินซี เพื่อช่วยนำสัญญาณไปมาระหว่างเซลล์ในสมอง และยังต้องการสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยปกป้องสมองจากการถูกโจมตี หรือเสื่อมสภาพไปตามอายุขัย สารแอลไทโรซึน (L-Tyrosine) ทำหน้าที่ช่วยลดความเครียด ทำให้สมองตื่นตัว สกัดความอยากอาหาร (appetite suppressant)ลดไขมัน บำรุงผิวหนังและเส้นผม นอกจากนี้ยังเพิ่มพลังทางเพศ อีกด้วย สมองดึงดูดพลังงานของร่างกายไปใช้มากที่สุด

กล้วย บำรุงสุขภาพ

กล้วยเป็นอาหารบำรุงสุขภาพ อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารต่าง ๆ มากมาย กล้วยมี วิตามินซี โปแตสเซี่ยม และเส้นใยอาหาร กล้วยไม่มีโซเดียม ไขมัน หรือคอเลสเตอรอล วิตามินซีในกล้วย ช่วยป้องกันและรักษาอาการอักเสบ ช่วยสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue)เชื่อมโยงยึดเหนี่ยวอวัยวะและโครงสร้างต่าง ๆ ของร่างกายให้อยู่รวมกัน และ ค้ำจุนร่างกาย นอกจากนี้ วิตามินซีในกล้วย ยังช่วยดูดซับธาตุเหล็ก และสร้างเม็ดเลือดอีกด้วย โปแตสเซี่ยมในกล้วย ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะ อาหารที่มีโปแตสเซี่ยมสูง จะช่วยป้องกันความดันเลือดสูง และอัมพาต (stroke) อีกด้วย กล้วยให้พลังงานแก่ร่างกายได้ทันทีทันควัน เนื่องจากมีน้ำตาลธรรมชาติ ได้แก่ ซูโคลส(sucrose) ฟรุทโตส(fructose) และกลูโคส (glucose)ดังนั้น เมื่อร่างกายอ่อนเพลีย สามารถรับประทานกล้วย เพื่อให้พลังงาน แก่ร่างกายได้ทันที กล้วยมีวิตามินบี 6 ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย และสร้างเม็ดเลือดแดง และระบบประสาท(nervous system) รับประทานกล้วย ช่วยบำรุงสมอง กล้วยได้ชื่อว่า เป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรทมากกว่าผลไม้อื่น ซึ่งเป็นผลดี เพราะร่างกายได้รับแคลอลี่จากคา

โฟเลต (Folate) คืออะไร

โฟเลต (Folate) คือ วิตามินบีที่ละลายน้ำได้ ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางในการตั้งครรภ์ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับหญิงมีครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โฟเลต ช่วยในการสร้างเซลล์ของร่างกาย โดยเฉพาะสำหรับทารกในครรภ์มารดา โฟเลทฃช่วยสร้าง DNA และ RNA ซึ่งจำเป็นในการสร้างเซลล์ ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ต้องการโฟเลต เพื่อสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยระษาระดับกรดอะมิโน การขาดโฟเลต ถ้าเป็นในหญิงตั้งครรภ์ อาจจะให้กำเนิดเด็กที่น้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ คลอดก่อนกำหนด หรือเกิดภาวะ neural tube defects ในเด็กแรกเกิด จะทำให้เจริญเติบโตช้า และถ้าเป็นการขาดโฟเลตในผู้ใหญ่จะทำให้เป็นโรคโลหิตจาง โฟเลตพบในอาหาร โดยเฉพาะผักใบสีเขียว ผลไม้ กล้วย ส้ม แคนตาลูป และถั่วต่าง ๆ นอกจากนี้ยังพบในเนื้อวัว และตับไก่ อ้างอิง http://ods.od.nih.gov/factsheets/folate/ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=marquez&group=8&date=18-05-2007&gblog=20

กระเจี๊ยบ อาหารสำหรับหญิงมีครรภ์

รูปภาพ
กระเจี๊ยบ หรือผักกระเจี๊ยบ เป็นอาหารพื้นบ้านของไทย หญิงมีครรภ์ควรรับประทานเป็นอย่างยิ่ง เพราะในกระเจี๊ยบมีกรดโฟลิค (folic acid) ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์มารดา ในช่วงสัปดาห์ที่ 4-12 นับแต่การปฏิสนธิ กระเจี๊ยบเป็นพืชผักที่มีมาแต่โบราณ พบว่ามีปลูกในประเทศเอธิโอเปีย เป็นเวลากว่า 3,500 ปี มาแล้ว เป็นพืชท้องถิ่นแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ ทวีปแอฟริกาตอนเหนือ และตะวันออกกลาง ยางเมือกเหนียว (mucilage) และเส้นใยของกระเจี๊ยบ ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด โดยการดูดซึมภายในลำไส้เล็ก เส้นใยอาหารของกระเจี๊ยบ ช่วยบำรุงรักษาระบบทางเดินอาหาร ช่วยดูดซับน้ำ คอเลสเตอรอบส่วนเกิน และช่วยไม่ให้ท้องผูกได้อีกด้วย บำรุงรักษากระเพาะและลำไส้ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก กระเจี๊ยบเป็นยอดอาหารการลดน้ำหนัก การปรุงอาหารไม่ควรให้สุกจนเกินไป เพราะจะทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหาร โดยเฉพาะยางเมือกเหนียวของกระเจี๊ยบก็จะสูญเสียไปด้วย กระเจี๊ยบช่วยส่งเสริมแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ (probiotics) และช่วยสังเคราะห์วิตามินบีรวม อีกด้วย ว่ากันว่า กระเจี๊ยบช่วยให้ผมมีสปริง โดยหั่นกระเจี๊ยบตามขวาง แล้วต้มแล้วทำให้เย็นแล้