บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2014

การแสดง/ซ่อน Disable/Enable ปุ่ม บน ริบบิ้น ของ Access 2010

รูปภาพ
ความรู้พื้นฐานก่อนศึกษาเรื่องนี้ การสร้างริบบิ้น การสร้างปุ่มบนริบบิ้นโดยใช้ภาพที่สร้างเอง การ Disable ปุ่มบนริบบิ้น การแสดง/ซ่อน หรือกำหนดสถานะเป็น ไม่ทำงาน/ทำงาน (Disable/Enable) ปุ่ม บน ริบบิ้น ของ Access 2010 ต้องดำเนินการผ่าน Callback โดยกำหนดให้เรียกใช้ ใน USysRibbons เช่น ถ้าต้องการให้ปุ่ม btnNewAcc มีสถานะทำงาน หรือไม่ทำงาน ก็ต้องเพิ่ม getEnabled = "ชื่อไฟล์คำสั่ง" เช่น <button id="btnTransaction" label="ฝาก-ถอน"  onAction="myButtonCallback"  getEnabled="CallbackGetEnabled" /> จากนั้นจึงไปเขียนคำสั่ง ใน CallbackGetEnabled อีกครั้งหนึ่ง เช่น Sub CallbackGetEnabled(control As IRibbonControl, ByRef enabled)     enabled = bolEnabled End Sub ในตัวอย่างข้างบน มีการกำหนดตัวแปร bolEnabled ให้เป็น global variable แล้วจากนั้น จึงไปกำหนดค่า ให้เป็น True หรือ False เมื่อต้องการ ในไฟล์ตัวอย่างที่แนบให้ดาวน์โหลดข้างล่างนี้ มีการกำหนดค่า เมื่อมีการคลิกปุ่มเลือกให้แสดงสถานะ การวาดริบบิ้นใหม่ (Redraw) ใช้คำสั่ง invalidate เ

ตัวหนังสือ รอยเย็บแนวขอบ ด้วย Illustrator CS6

รูปภาพ
ต้องการสร้างตัวหนังสือ รอยเย็บแนวขอบ ตามตัวอย่างข้างล่างนี้ หลักการ ใช้ Appearance Panel สร้างเส้นขอบ (Stroke) และกำหนดรูปแบบเป็นเส้นประ หรือ Dashed Line ปัญหาคือ ใน Illustrator CS6  ไม่สามารถสร้างเส้นขอบ หรือ Stroke ให้กับตัวหนังสือได้ หรือจะจัดตำแหน่งของเส้น Stroke ก็ไม่สามารถทำได้ วิธีการ เปิดไฟล์ใหม่ และใช้ Type Tool เขียนข้อความ โดยเลือกตัวหนังสือตัวหนา ๆ ในตัวอย่างนี้ เลือกตัวหนังสือ TP Kubua ขนาด 150pt เปิด Appearance Panel โดยไปที่ Window > Appearance ตรงนี้ เราไม่สามารถสร้าง Stroke เพิ่มให้กับตัวหนังสือได้ ต้องเปลี่ยนเครื่องมือ ไปคลิกที่ลูกศรสีดำ (Selection Tool) เพื่อเปลี่ยนจากตัวหนังสือ เป็น Object ที่ Appearance Panel คลิกที่มุมขวาด้านบน คลี่ลงมา และเลือก Add New Stroke คลิกเปลี่ยนสีของ Stroke เป็นสีน้ำเงินเข้ม และปรับขนาดของ Stroke เป็น 2px ซึ่งจะทำให้เมื่อลากไปไว้ข้างหลัง Fill จะได้เส้นขนาด 1px เนื่องจากไม่สามารถปรับ Stroke ให้อยู่ชิดด้านนอกได้  คลิกที่ข้อความ Stroke  และเลือกลักษณะเส้น เป็น Dashed Line กำหนด dash = 4 pt และ gap = 3 pt

การเปลี่ยนรูปแบบชุดข้อมูล จากแนวตั้ง เป็นแนวนอน

รูปภาพ
สมมติว่า มีข้อมูลที่อยู่ เรียงลำดับลงมาเป็นคอลัมน์ ตามแนวตั้ง และต้องการเปลี่ยนให้เรียงเป็นแถว 1 แถว คือ 1 ที่อยู่ ตามภาพข้างล่าง จะทำอย่างไร วิธีที่ง่ายที่สุด คือ Copy และ Paste ทีละ Cell แต่ถ้ามีเยอะ ๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน วิธีที่ดีที่สุด คือการใช้สูตรช่วย ทำให้ง่ายและเร็วขึ้น สูตรที่จะใช้คือ index() เพื่อคัดลอกข้อมูลใน Cell ไปยังที่ใหม่  สูตรการใช้ index() คือ index(array, row_num, [column_num]) array ในที่นี้ ก็คือ คอลัมน์ A ทั้งหมด เพราะข้อมูลอยู่ในคอลัมน์ A  row_num ในกรณีนี้ ต้องใช้อ้างอิงจากตำแหน่งแถวแรกของข้อมูลแต่ละชุด - ข้อมูลชุดชุดที่ 1 คือ เลขที่ 99 หมู่ที่ 8 เริ่มที่คอลัมน์ 2 - ข้อมูลชุดชุดที่ 2  คือ เลขที่ 9 หมู่ที่ 6 เริ่มที่คอลัมน์ 7 - ข้อมูลชุดชุดที่ 3   คือ เลขที่ 30 หมู่ที่ 8 เริ่มที่คอลัมน์ 12 column_num ในกรณีนี้ เราไม่ต้องใช้ ดังนั้นถ้าจะใช้สูตรคัดลอกจากแนวตั้ง เป็นแนวนอน จะได้ดังนี้ D2 =index(A:A,2) E2 =index(A:A,3) F2 =index(A:A,4) G2 =index(A:A,5) เพื่อให้สามารถลากสูตร โดยใช้ Auto Fill ได้ จึงต้องกำหนดค่าตัวเ

เดินวันละชั่วโมงป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมได้

รูปภาพ
ฟัง หมอดาเลีย พูดว่า เดินวันละ 6,000 ก้าว ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ รู้สึกสนใจ เลยหาข้อมูลต่อ คนอายุมากที่มีปัญหาเรื่องข้อเข่า มักจะเดินลำบาก ขึ้นบันไดยากมาก หรือแม้แต่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก็ลำบาก แต่ผลการวิจัยต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่า การเดินจะช่วยให้ทำสิ่งต่าง ๆ ข้างต้นได้ดีขึ้น เดินสบาย ขึ้นบันไดสบาย ลุกนั่งจากเก้าอี้คล่องแคล่วไม่มีปัญหา Professor Daniel White มหาวิทยาลัย Boston University ได้ศึกษาวิจัยเรื่องนี้กับกลุ่มตัวอย่างเกือบ 1,800 คน และสรุปว่า ตัวเลข 6,000 ก้าว ใช้เป็นเกณฑ์ได้ ใครก็ตาม ถ้าสามารถเดินได้วันละ 6,000 ก้าว ก็ถือว่าปลอดภัย ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ควรจะเดินให้ได้วันละ 6,000 ก้าว ยิ่งเดินมาก ความเสี่ยงยิ่งลดลง โดยปกติ คนเดิน 100 ก้าว ใช้เวลาประมาณ 1 นาที เพราะฉะนั้น 6,000 ก้าว ก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเดินติดต่อกันทั้งชั่วโมง เดินตอนไหนก็ได้ทั้งวัน ให้ได้ 6,000 ก้าวก็พอ และถ้าจะให้ดี ก็ต้องมีเครื่องมือวัดจำนวนก้าวที่เดินด้วย เครื่องมือที่ว่า เรียกว่า Pedometer ไอ้เจ้า Pedometer นี่ เดี๋ย

Windows 7 ใช้เวลา Boot นานมาก

รูปภาพ
โดยปกติ เมื่อ Windows  ใช้เวลา Boot นานมาก เรามักจะเรียกโปรแกรม msconfig เพื่อจัดการกับโปรแกรมที่ load เข้ามาตอน Startup เพื่อให้โหลดเร็วขึ้น แต่หลายครั้งที่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ โปรแกรม Windows 7 รุ่น Ultimate, Professional และรุ่น Enterprise มีเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาการ Boot เครื่องมือนี้เรียกว่า Windows Boot Performance Diagnostics วิธีการใช้งาน เรียกใช้งานโปรแกรม gpedit.msc โดยคลิกที่ไอคอนรูป Windows และพิมพ์ gpedit.msc  คลิกเลือก Show/Hide Console Tree (ปกติเมื่อเปิด จะคลิกเปิดอยู่แล้ว) เลือก Computer Configuration > Administrative Templates > System ดับเบิ้ลคลิก Troubleshooting and Diagnostics ดับเบิ้ลคลิก Windows Boot Performance Diagnostics เพื่อเปิดหน้าต่างใช้งาน เลือก Configure Secnario Excution Level คลิก Policy setting เปิดใช้งาน โดยคลิก Enable และเลือก Detection, Troubleshooting and Resolution เป็นอันเสร็จสิ้นการให้ Windows วิเคราะห์และแก้ไขการ Boot ช้า ของ Windows 7 ที่มา http://www.guidingtech.com/2955/f

การสร้างลิงค์ใน Dialog ของ jQuery

รูปภาพ
ถ้าต้องการสร้างลิงค์ ใน Dialog ของ jQuery ตามตัวอย่างข้างล่าง จะทำอย่างไร มีวิธีการสร้างได้หลายอย่าง วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การเพิ่มลิงค์ ในส่วนเนื้อหาของ ที่จะนำมาเป็นข้อความใน Dialog เช่น <div id="dialog-modal" title="ยินดีต้อนรับ">   <p style = "text-align: center">เรียบร้อยแล้ว <br>กลับหน้าหลัก <a href = 'http://www.thongjoon.com'>คลิกที่นี่</a></p> </div> ในส่วนการเรียกใช้งาน Dialog ก็เรียกตามปกติ เช่น  (อ่านเรื่อง การสร้าง Dialog ด้วย jQueryUI ประกอบ)     $( "#dialog-modal" ).dialog({       height: 150,       modal: true     }); อีกวิธีหนึ่ง คือ การใช้ function .html() เพื่อเปลี่ยนข้อความในส่วนของ ที่จะนำมาแสดงใน Dialog ตัวอย่าง ฟังก์ชัน .html()  ฟังก์ชัน .html() เป็นฟังก์ชัน สำหรับอ่าน/คัดลอกข้อความ html หรือ เปลี่ยนข้อความให้เป็น html ในส่วนที่เลือก เช่น ใน หรือ ที่กำหนด ตัวอย่าง การอ่าน/คัดลอกข้อความ สมมุติว่า มีข้อความต่อไปนี้ &