บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2018

look for, look up, look into ต่างกันอย่างไร

look for, look up, look into  เป็น phrasal verbs หรือ กริยาวลี หรือ two word verbs ซึ่งทั้งสามคำนี้ มีความหมายคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน ลองทำแบบฝึกหัดดูก่อน นะครับ Instructions: Select the one that does not belong to the group. ข้อ 1. She is going to .................. their children while you're away.   1. look after 2. look at 3. look for 4. look into   dummy text 1. look after (ดูแล รับผิดชอบ) ✔ 2. look at (มองดู) 3. look for (ค้นหา) 4. look into (ตรวจสอบ) คำตอบที่ถูก คือ ข้อ 1   ข้อ 2. Can you help me ............... my keys? I can't find them.   1. look after 2. look through 3. look at 4. look for   dummy text 1. look after (ดูแล เลี้ยงดู รับผิดชอบ) 2. look at (มองดู) 3. look through (ตรวจดูอย่างรวดเร็ว) 4. look for (มองหา) ✔ คำตอบที่ถูก คือ ข้อ 4   ข้อ 3. Thanks for .................. me whe

Phrasal Verbs

Phrasal Verbs Phrasal Verbs หรือ กริยาวลี หรือ Two-word verbs คือ กลุ่มคำที่ประกอบด้วย คำกริยา ตามด้วย adverb หรือ preposition และมีความหมายต่างไปจากคำกริยาเดิม Phrasal Verbs อาจจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ Phrasal Verbs ที่แยกจากกันได้ - กรรมของประโยคที่เป็นคำนาม อาจจะต่อท้าย หรือแทรกอยู่ตรงกลาง Phrasal Verbs ก็ได้ แต่ถ้ากรรม เป็นกลุ่มคำยาว ๆ จะอยู่ต่อจาก Phrasal เช่น You have to do this paint job over. You have to do over this paint job. คุณต้องทาสีงานนี้ใหม่อีกครั้ง You have to do over this ridiculous paint job. คุณต้องทาสี งานสีที่ดูแปลกประหลาดใหม่อีกครั้ง - แต่ถ้ากรรม เป็นคำสรรพนาม เช่น him her me them it เป็นต้น Phrasal Verbs ต้องแยกกัน You have to do it over. ✔ You have to do over it . ✘ คุณต้องทำงานใหม่อีกครั้ง Phrasal Verbs ที่แยกจากกัน ไม่ได้ Phrasal Verbs ประเภทนี้ จะอยู่คู่กันเสมอ ส่วนที่เป็นกรรม จะต่อจาก Phrasal Verb ไม่ว่าจะเป็นคำนาม หรือคำสรรพนามก็ตาม เช่น The students went over the material before the exam. They should have gone over it twic

ง่าย ๆ แต่ไม่รู้ กับคำว่า sell

รูปภาพ
โดยทั่วไปเรารู้ว่า sell แปลว่าขาย หร่ือ จำหน่าย เช่น - I sold my car to my brother for 50,000 baht. -ฉันขายรถให้น้องชาย ไปในราคา 5 หมื่นบาท -That shop sells books. -ร้านนั้นขายหนังสือ คำว่า sell นอกจากแปลว่า ขาย แล้ว ยังแปลว่า "ถูกซื้อ" ในลักษณะหรือจำนวนที่ระบุ หรือ "ถูกขาย"ตามราคาที่ระบุ [to be bought in the way or quantities that are mentioned; to be sold at the price mentioned] ตัวอย่างประโยค These baskets sell well. ตะกร้าเหล่านี้ขายดี Their last album sold over a hundred thousand copies. อัลบัมสุดท้ายของพวกเขา ถูกซื้อ ไปมากกว่า 1 แสนชุด How much does the phone sell for? โทรศัพท์อันนี้ ขายเท่าไร? ถ้านึกถึงแกรมม่า ในภาษาอังกฤษ เรื่องของ Active/Passive Voice ก็จะถามคำถามว่า These baskets sell well. ตะกร้าเหล่านี้ขายดี แล้วตะกร้ามันขายตัวเองได้อย่างไร ประโยคนี้น่าจะเป็น These baskets are sold well. เพราะว่าตะกร้าขายตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนนำเอาไปขาย ต้องใช้ Passive จึงจะได้ แต่ไม่ใช่ ของเขาถูกแล้วครับ These baskets sell well. Their

การใช้ a, an และ the

รูปภาพ
การใช้ a, an และ the a, an และ the เป็นคำ article ใช้นำหน้าคำนามในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีหลักการใช้ ดังนี้ การใช้ a และ an ใช้ a นำหน้าคำนามเอกพจน์ และนับได้ ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ หรือ ขึ้นต้นด้วยสระ แต่อ่านออกเสียงเป็นพยัญชนะ เช่น Please give me a book . Any book will do. หนังสือ เป็นคำนามที่นับได้ และขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ คือตัว b There is a university at the end of this road. university ขึ้นต้นด้วยสระ คือตัว u แต่ออกเสียงเป็น yoo จึงต้องใช้ a คำอื่น ๆ เช่น a user, a European city เป็นต้น ใช้ an นำหน้าคำนามเอกพจน์ และนับได้ ที่ขึ้นต้นด้วยสระ a, e, i, o,u หรือ ออกเสียงสระ แม้ว่าจะเขียนขึ้นต้น ด้วยพยัญชนะก็ตาม เช่น an elephant, an hour, an umbrella, an apple, an honest man (คำว่า hour และ honest ไม่ออกเสียงตัว h จึงต้องใช้ an นำหน้า) ใช้ a/an เมื่อพูดถึงสิ่งนั้นเป็นครั้งแรก เช่น Would you like a drink? ใช้ a/an เมื่อพูดถึงสมาชิกหนึ่งในกลุ่ม เช่น John is a doctor. จอห์นเป็นหมอคนหนึ่ง ใช้ a นำหน้าวันในสัปดาห์ เมื่อไม่ต้องการระบุว่าเป็นวันไหน I was born on a Thursda

ทบทวนแกรมม่า เรื่อง Passive Voice

รูปภาพ
Passive Voice เราใช้ Passive Voice เมื่อต้องการเน้นที่กรรมของประโยค หรือ เน้นที่ผู้ถูกกระทำ มากกว่า ใครเป็นผู้กระทำ หรือไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ เช่น The house was built in 1954. บ้านหลังนั้น (ถูก)สร้างในปี ค.ศ. 1954 ไม่เน้นว่าใครเป็นคนสร้าง แต่เน้นว่าบ้านนี้สร้างมานานแล้ว ในกรณีที่มีการบอกผู้กระทำ จะมีคำว่า by หรือ โดยใคร เช่น The house was built in 1954 by my father. บ้านหลังนั้น (ถูก)สร้างในปี ค.ศ. 1954 โดยคุณพ่อของฉัน(เป็นคนสร้าง) The road is being repaired. ถนนสายนั้นกำลังได้รับการซ่อมบำรุง ใครเป็นคนซ่อมไม่สำคัญ แต่เน้นว่า ถนนกำลังซ่อม ถ้าขับรถผ่านไปจะลำบาก I noticed that a window had been left open. ฉันได้สังเกตุเห็นว่าหน้าต่างบานหนึ่ง(ถูก)เปิดค้างไว้ ไม่รู้ว่าเจ้าของเปิดไว้ หรือขโมยออกจากบ้านแล้วลืมปิด ที่สำคัญคือต้องการเน้นว่า หน้าต่างเปิดอยู่ Every year thousands of people are killed on our roads. ในทุก ๆ ปี ผู้คนจำนวนนับพันถูกฆ่าตายบนท้องถนน All the cookies have been eaten. คุ้กกี้ทั้งหมดถูกกินเรียบร้อยแล้ว ใครกินไม่รู้ หรือรู้ก็ไม่บอก My car has been stolen! รถของฉั

ทบทวนเรื่อง If Clause ฉบับเตรียมสอบ

สรุปรูปแบบประโยคเงื่อนไข IF If clause Main clause Present simple (Type 0) -If you heat the ice, Present simple it melts. Present simple (Type 1) -If he comes, Future simple I will go. Past simple (Type 2) -If I were a bird, would/could+ช่อง 1 I would sing all day. Past perfect (Type 3) -If I had known, would+have+ช่อง 3 I would have come. ตารางสรุปเกี่ยวกับประโยคเงื่อนไข หรือ If Clause ประเภท รูปประโยค (If clause + main clause) ตัวอย่าง Type 0: เป็นจริงเสมอ Present simple + Present simple If you heat the ice, it melts. เป็นจริงตลอดกาล Type 1: เป็นไปได้ Present simple + Future simple If he comes, I will go. เป็นไปได้ที่เขาจะมา ถ้ามา ฉันไป Type 2: สมมุติว่า Past simple + (would+ช่อง 1) หรือ (would + be + -ing) If I were a bird, I would sing all day long. เป็นเรื่องสมมุติ เป็นไปไม่ได้แน่นอน Type 3: ผ่านมาแล้ว เป็นไปไม่ได้ Past perfect + (would have กริยาช่อง 3) If I had known, I would have come. ถ้ารู้ก็มาแล้ว จริง ๆ คือไม่รู้ จึงไม่ได้มา การใช้ประโยคเงื่อนไข (IF) ปร

ทบทวนเรื่อง Tense ฉบับเร่งรัด เตรียมสอบ ก.พ.

รูปภาพ
Tense หลัก ๆ ในภาษาอังกฤษ ที่ควรรู้ Past Present Future Simple I spoke. I speak. I will speak. Continuous I was speaking. I am speaking. Perfect I had spoken. I have spoken. การใช้ Past Present Future Simple เรื่องที่จบไปแล้ว เรื่องในปัจจุบัน เรื่องในอนาคต Continuous กำลังทำในอดีต กำลังทำตอนนี้ Perfect ทำเสร็จตอนนั้น ทำมาถึงตอนนี้ คำสำคัญบางคำ ที่ควรสังเกต Past Present Future Simple yesterday, last week, last month, in 2010, ago always, often, every day, on Mondays เป็นต้น tomorrow, next week, next month, in three days Continuous at this time last year now, at the moment Perfect ใช้คู่กับ Past tense since, for, already, just, lately เป็นต้น Past Simple Tense ดาวน์โหลด App สอบ ก.พ. สำหรับ Android ฟรี ที่ Play Store ตามหลักสูตร ก.พ. ใหม่ มีแนวข้อสอบ มากกว่า 1,000 ข้อ มีเฉลยอย่างละเอียด มีคำอธิบายทุกข้อ มีสรุปและเทคนิคการทำข้อสอบ มีชุดข้

การปรับเปลี่ยนลักษณะ Toast ของ Android Studio

รูปภาพ
Android Studio มี Toast ให้สำหรับแสดงข้อความง่าย ๆ เหมือนกับเป็น Message Box แต่ได้กำหนดตำแหน่งและรูปร่างเอาไว้ ไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะ กำหนดให้อยู่ที่ตำแหน่งตรงกลาง ด้านล่าง และมีพื้นสีดี ตัวหนังสือสีขาว แต่เราสามารถทำให้น่าสนใจ โดยเปลี่ยนสีพื้น เปลี่ยนตำแหน่ง เปลี่ยนขนาด หรือ จะเปลี่ยนสีตัวหนังสือด้วย ก็ได้ ข้างล่างนี้เป็นตัวอย่าง Toast ที่ปรับใช้แล้ว การปรับเปลี่ยน Toast สามารถทำได้ โดยการสร้างไฟล์ Layout ที่เป็นไฟล์ xml แล้วปร้บเปลี่ยนตามต้องการ หรือ เรียกใช้ Default TextView ของ Toast มาปรับเปลี่ยน ก็ได้ ตัวอย่างข้างล่างนี้ เป็นการเรียกใช้ Default TextView มาปรับตามต้องการ วิธีการ สร้างข้อความใน Strings.xml โดยใช้ชื่อว่า loading และ กำหนดข้อความ "กรุณา รอสักครู่" </resources> <string name="loading">กรุณา รอสักครู่...</string> </resources> สร้างไฟล์ xml ผมใช้ชื่อว่า toast_green_bkg.xml เอาไว้ในห้อง drawable สำหรับเป็นสีพื้นหลัง และกำหนดให้มุมโค้งมนตามต้องการ <?xml version="1.0" encoding="utf-8&qu

เตรียมสอบ ก.พ. ภาษาอังกฤษ have/make/get

รูปภาพ
เตรียมสอบ ก.พ. (ภาค ก.) วันนี้ เรื่อง การใช้คำว่า have make และ get ประเด็นคือ คำกริยาที่ตามหลัง คำทั้งสามนี้ จะเป็น Gerund (กริยาเติม -ing) หรือ infinitive หรือ infinitive without to กันแน่ คำว่า  have make และ get แต่ละคำมีความหมายหลายอย่าง แต่ที่มีความหมายค่อนข้างตรงกันอย่างหนึ่งคือ มีความหมายว่า "ให้ใคร ทำอะไร" สิ่งที่ต่างกันคือ ให้ทำอย่างไร เช่น จ้างให้ทำ บังคับให้ทำ หรือ ชักชวนให้ทำ have = จ้างให้ทำ เช่น Jack had a tailor measure him for a suit. แจ็ค จ้างให้ช่างตัดเสื้อ วัดตัว เพื่อตัดสูท make = บังคับให้ทำ His wife made him do the laundry. ภรรยาเขา บ้งคับ ให้เขาซักผ้า get = ชักชวนให้ทำ Somsak got his friend to drive him to the airport. สมศักดิ์ หว่านล้อม ให้เพื่อน ขับรถไปส่งที่สนามบิน จากตัวอย่างข้างบน สรุปรูปแบบประโยค การใช้ได้ ดังนี้ have + infinitive without to have someone do something make + infinitive without to make someone do something get + infinitive get someone to do something แต่ ถ้าเราไม่เน้นว่า จ้างให้ใครทำอะไร โดยไม

คำที่ตามด้วย gerund infinitive หรือ past participle

Infinitive หรือ Gerund คำกริยาที่ตามด้วย gerund ที่พบอยู่บ่อย ๆ มีหลายคำ บางคำก็สามารถตามได้ทั้ง gerund และ infinitive โดยที่ความหมายคล้ายกัน หรือ บางคำก็มีความหมายต่างกัน หรือบางคำโดยปกติก็ตามด้วย gerund แต่ถ้ามีกรรมมาคั่น ก็ต้องใช้ infinitive เป็นต้น admit ยอมรับ He admitted stealing the ring. เขาได้สารภาพว่า ขโมยแหวนวงนั้นไป advise แนะนำ Doctors generally advised doing exercise. แพทย์โดยทั่วไปจะแนะนำให้ออกกำลังกาย The doctor advised him to do more exercise. นายแพทย์คนนั้น แนะนำให้เขาออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น มีกรรม (object) มาคั่น ให้ตามด้วย infinitive allow อนุญาต Thailand doesn't allow smoking in hospitals. ประเทศไทยไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในโรงพยาบาล Thailand doesn't allow people to smoke in hospitals. ประเทศไทยไม่อนุญาตให้ประชาชน สูบบุหรี่ในโรงพยาบาล มีกรรมมาคั่น ให้ตามด้วย infinitive คำอื่น ๆ เช่น advise, recommend, allow, permit, require เป็นต้น anticipate คาดการณ์ล่วงหน้า I anticipated getting stuck in traffic. ฉันคาดว่าจะติดอยู่ในการจราจร (คาดว่ารถ