บทความ

การเปลี่ยนรูปแบบชุดข้อมูล จากแนวตั้ง เป็นแนวนอน

รูปภาพ
สมมติว่า มีข้อมูลที่อยู่ เรียงลำดับลงมาเป็นคอลัมน์ ตามแนวตั้ง และต้องการเปลี่ยนให้เรียงเป็นแถว 1 แถว คือ 1 ที่อยู่ ตามภาพข้างล่าง จะทำอย่างไร วิธีที่ง่ายที่สุด คือ Copy และ Paste ทีละ Cell แต่ถ้ามีเยอะ ๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน วิธีที่ดีที่สุด คือการใช้สูตรช่วย ทำให้ง่ายและเร็วขึ้น สูตรที่จะใช้คือ index() เพื่อคัดลอกข้อมูลใน Cell ไปยังที่ใหม่  สูตรการใช้ index() คือ index(array, row_num, [column_num]) array ในที่นี้ ก็คือ คอลัมน์ A ทั้งหมด เพราะข้อมูลอยู่ในคอลัมน์ A  row_num ในกรณีนี้ ต้องใช้อ้างอิงจากตำแหน่งแถวแรกของข้อมูลแต่ละชุด - ข้อมูลชุดชุดที่ 1 คือ เลขที่ 99 หมู่ที่ 8 เริ่มที่คอลัมน์ 2 - ข้อมูลชุดชุดที่ 2  คือ เลขที่ 9 หมู่ที่ 6 เริ่มที่คอลัมน์ 7 - ข้อมูลชุดชุดที่ 3   คือ เลขที่ 30 หมู่ที่ 8 เริ่มที่คอลัมน์ 12 column_num ในกรณีนี้ เราไม่ต้องใช้ ดังนั้นถ้าจะใช้สูตรคัดลอกจากแนวตั้ง เป็นแนวนอน จะได้ดังนี้ D2 =index(A:A,2) E2 =index(A:A,3) F2 =index(A:A,4) G2 =index(A:A,5) เพื่อให้สามารถลากสูตร โดยใช้ Auto Fill ได้ จึงต้องกำหนดค่าตัวเ

เดินวันละชั่วโมงป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมได้

รูปภาพ
ฟัง หมอดาเลีย พูดว่า เดินวันละ 6,000 ก้าว ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ รู้สึกสนใจ เลยหาข้อมูลต่อ คนอายุมากที่มีปัญหาเรื่องข้อเข่า มักจะเดินลำบาก ขึ้นบันไดยากมาก หรือแม้แต่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก็ลำบาก แต่ผลการวิจัยต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่า การเดินจะช่วยให้ทำสิ่งต่าง ๆ ข้างต้นได้ดีขึ้น เดินสบาย ขึ้นบันไดสบาย ลุกนั่งจากเก้าอี้คล่องแคล่วไม่มีปัญหา Professor Daniel White มหาวิทยาลัย Boston University ได้ศึกษาวิจัยเรื่องนี้กับกลุ่มตัวอย่างเกือบ 1,800 คน และสรุปว่า ตัวเลข 6,000 ก้าว ใช้เป็นเกณฑ์ได้ ใครก็ตาม ถ้าสามารถเดินได้วันละ 6,000 ก้าว ก็ถือว่าปลอดภัย ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ควรจะเดินให้ได้วันละ 6,000 ก้าว ยิ่งเดินมาก ความเสี่ยงยิ่งลดลง โดยปกติ คนเดิน 100 ก้าว ใช้เวลาประมาณ 1 นาที เพราะฉะนั้น 6,000 ก้าว ก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเดินติดต่อกันทั้งชั่วโมง เดินตอนไหนก็ได้ทั้งวัน ให้ได้ 6,000 ก้าวก็พอ และถ้าจะให้ดี ก็ต้องมีเครื่องมือวัดจำนวนก้าวที่เดินด้วย เครื่องมือที่ว่า เรียกว่า Pedometer ไอ้เจ้า Pedometer นี่ เดี๋ย

Windows 7 ใช้เวลา Boot นานมาก

รูปภาพ
โดยปกติ เมื่อ Windows  ใช้เวลา Boot นานมาก เรามักจะเรียกโปรแกรม msconfig เพื่อจัดการกับโปรแกรมที่ load เข้ามาตอน Startup เพื่อให้โหลดเร็วขึ้น แต่หลายครั้งที่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ โปรแกรม Windows 7 รุ่น Ultimate, Professional และรุ่น Enterprise มีเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาการ Boot เครื่องมือนี้เรียกว่า Windows Boot Performance Diagnostics วิธีการใช้งาน เรียกใช้งานโปรแกรม gpedit.msc โดยคลิกที่ไอคอนรูป Windows และพิมพ์ gpedit.msc  คลิกเลือก Show/Hide Console Tree (ปกติเมื่อเปิด จะคลิกเปิดอยู่แล้ว) เลือก Computer Configuration > Administrative Templates > System ดับเบิ้ลคลิก Troubleshooting and Diagnostics ดับเบิ้ลคลิก Windows Boot Performance Diagnostics เพื่อเปิดหน้าต่างใช้งาน เลือก Configure Secnario Excution Level คลิก Policy setting เปิดใช้งาน โดยคลิก Enable และเลือก Detection, Troubleshooting and Resolution เป็นอันเสร็จสิ้นการให้ Windows วิเคราะห์และแก้ไขการ Boot ช้า ของ Windows 7 ที่มา http://www.guidingtech.com/2955/f

การสร้างลิงค์ใน Dialog ของ jQuery

รูปภาพ
ถ้าต้องการสร้างลิงค์ ใน Dialog ของ jQuery ตามตัวอย่างข้างล่าง จะทำอย่างไร มีวิธีการสร้างได้หลายอย่าง วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การเพิ่มลิงค์ ในส่วนเนื้อหาของ ที่จะนำมาเป็นข้อความใน Dialog เช่น <div id="dialog-modal" title="ยินดีต้อนรับ">   <p style = "text-align: center">เรียบร้อยแล้ว <br>กลับหน้าหลัก <a href = 'http://www.thongjoon.com'>คลิกที่นี่</a></p> </div> ในส่วนการเรียกใช้งาน Dialog ก็เรียกตามปกติ เช่น  (อ่านเรื่อง การสร้าง Dialog ด้วย jQueryUI ประกอบ)     $( "#dialog-modal" ).dialog({       height: 150,       modal: true     }); อีกวิธีหนึ่ง คือ การใช้ function .html() เพื่อเปลี่ยนข้อความในส่วนของ ที่จะนำมาแสดงใน Dialog ตัวอย่าง ฟังก์ชัน .html()  ฟังก์ชัน .html() เป็นฟังก์ชัน สำหรับอ่าน/คัดลอกข้อความ html หรือ เปลี่ยนข้อความให้เป็น html ในส่วนที่เลือก เช่น ใน หรือ ที่กำหนด ตัวอย่าง การอ่าน/คัดลอกข้อความ สมมุติว่า มีข้อความต่อไปนี้ &

การสร้าง Popup หรือ Dialog สวย ๆ ด้วย jQuery UI

รูปภาพ
jQuery เป็น library ของ Javascript ที่ช่วยให้เราใช้ Javascript ได้ง่าย และรวดเร็ว ตามสโลแกนของ jQuery ที่ ว่า Write less, do more. สำหรับการสร้าง Popup ความจริง Javascript มีฟังก์ชัน Alert() ให้ใช้ได้ทันที แต่มีข้อจำกัดที่เราไม่สามารถเปลี่ยนข้อความส่วนหัว หรือปรับแต่งใด ๆ ได้ แต่ถ้าใช้ Jquery สร้าง Popup ทำให้ได้ Popup สวย ๆ มีหลายแบบ ปรับแต่งข้อความต่าง ๆ ได้ตามต้องการ และถ้าใช้ควบคู่กับการติดต่อกับฐานข้อมูล เช่น ผ่าน Php และ mySQL ด้วยแล้ว ทำให้สามารถ สร้าง Dialog รับข้อมูล นำข้อมูลไปประมวลผลบน Server  และ รายงานผล โดยใช้ Popup โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้า เช่น ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง คลิกที่นี่ จากตัวอย่าง จะเห็นว่า มีฟอร์ม และมีการส่งข้อความไปยัง PHP และส่งผลกลับจาก PHP แล้วนำมาแสดงผ่าน Popup ของ jQuery (อ่านเรื่อง การส่งข้อมูลจาก jQuery ไปยัง PHP คลิกที่นี่ ) Popup หรือ ที่เรียกว่า Dialog ของ jQuery เป็นอีก library หนึ่ง ชื่อ jQuery UI เข้าถึงได้ที่ http://www.jqueryui.com ซึ่งนอกจาก Dialog แล้ว ยังมีอื่น ๆ อีก เช่น การสร้างแถบ(Tab) การซ่อน/แสดงข้อความ(Accordion) ปฏิทิน (Date picke

การส่งข้อมูล จาก jQuery ไปยัง PHP

รูปภาพ
jQuery เป็น Javascript Library ที่ช่วยให้การใช้งาน Javascript สะดวก รวดเร็วขึ้น เช่น ตัดปัญหาเรื่อง Browser ว่าจะใช้ได้หรือไม่ และอื่น ๆ อีกมากมาย และที่สำคัญ ในตัวอย่างนี้ จะเป็นการใช้ jQuery เพื่อส่งข้อมูลไปยัง PHP เพื่อเก็บลงฐานข้อมูลต่อไป แต่ในตัวอย่างนี้ จะเป็นการส่งข้อมูลไปยัง PHP และให้ PHP ส่งกลับมาที่ JQuery  และแสดงผ่านหน้าจอ Popup ของ JQuery การใช้งานตามตัวอย่างนี้ จำเป็นที่ต้องทำเครื่องคอมให้เป็น Server หรือถ้าใครมี Server ที่ใช้งานได้ เช่นเดียวกัน โดยสร้างห้องบน Server และบันทึกไฟล์ต่าง ๆ ให้อยู่ในห้องเดียวกัน เพื่อความสะดวก จะได้ไม่ต้องอ้างอิงยืดยาว ในตัวอย่างนี้ ใช้ XAMPP เพื่อจำลองเครื่อง Notebook ให้เป็น Server ไฟล์ที่จะใช้งาน มี 3 ไฟล์ คือ index.html คือไฟล์หลัก ใช้เป็นแบบฟอร์มกรอกข้อมูล เพื่อส่งข้อมูลผ่าน jQuery ไปยัง PHP jquery-2.2.2.min.js คือไฟล์ jquery ที่ดาวน์โหลดมา เพื่อใช้งาน welcome.php คือไฟล์ PHP สำหรับรับข้อมูล และส่งกลับ ไฟล์ทั้งหมด อยู่ในห้องเดียวกันบน Server ก่อนอื่น ต้องไปดาวน์โหลด jQuery มาก่อน ที่ http://www.jquery.com การดาวน์โ

การกำหนดเลขหน้าที่ต่างกัน ใน MS Word 2010

รูปภาพ
ถ้าต้องการให้เอกสารมีเลขหน้าต่างกัน เช่น 2 หน้าแรก ไม่มีเลขหน้า หน้าที่ 3 เริ่มต้น หมายเลขหน้า เป็นเลข 1 จะทำอย่างไร หลักการ ต้องแบ่งไฟล์เอกสารออกเป็นส่วน ๆ โดยใช้ Section Break หรือ การแบ่งส่วน ถ้าไม่ต้องการให้มีเลขหน้าในบางส่วน ให้ตัดส่วนเชื่อมโยงของส่วนถัดไปออก และ ลบหมายเลขหน้าของส่วนก่อนหน้านั้นออก ถ้าไม่ตัดการเชื่อมโยง เมื่อลบหมายเลขหน้า จะลบหมายเลขหน้าออกทั้งเอกสาร วิธีการ กำหนดหมายเลขหน้าของเอกสารทั้งหมด โดยไปที่ แทรก > หมายเลขหน้า ไปที่่หน้าที 3 ซึ่งต้องการเริ่มต้นหมายเลขหน้า เป็นหน้าที่ 1 คลิกที่ตำแหน่งเริ่มต้นของหน้าที่ 3  ไปที่ เค้าโครงหน้ากระดาษ > แทรกตัวแบ่งส่วนและหน้า > ตัวแบ่งส่วน > หน้าถัดไป ถ้าไม่สังเกต อาจจะไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้ากด Ctrl + Shift + * เพื่อแสดงเครื่องหมายย่อหน้า และสัญลักษณ์การจัดรูปแบบอื่น ๆ หรือคลิกที่ เครื่องหมาย  ∏  แล้ว ดูที่การแบ่งส่วน จะเห็นมีข้อความการแบ่งส่วนให้เห็น กลับไปที่หน้าที่ต้องการเริ่มต้นหมายเลขหน้า เป็นหน้าที่ 1 (ปัจจุบันจะแสดงหน้าที่ 3) และดับเบิ้ลคลิกที่ตัวเลขหน้าเลขหน้า เพื่อเข้าสู่หัวกระด

การจัดลำดับแบบไม่ซ้ำกัน โดยมีเงื่อนไข ใน Excel 2010 ด้วย rank.eq() และ sumproduct()

รูปภาพ
โจทย์ปัญหา ถ้าต้องการจัดลำดับ โดยกำหนดเกณฑ์ว่า ถ้าได้คะแนนรวมเท่ากัน ให้พิจารณาผลคะแนนอื่นประกอบ เช่น ในการสอบคัดเลือก ถ้าคะแนนรวมได้เท่ากัน ให้พิจารณาคะแนนในการสอบ ภาค ก. ถ้าใครได้คะแนนสอบภาค ก. มากกว่า จะได้ลำดับที่ดีกว่า สังเกตการจัดลำดับผู้สอบคัดเลือกได้ ในตารางข้างล่างนี้ จากตัวอย่าง จะเห็นว่า ผู้เข้าสอบมีคะแนนรวม ที่เท่ากัน หลายคน เช่น เลขที่ 1, 6 และ 7 ได้คะแนน 100 คะแนน เท่ากัน แต่จัดลำดับที่ต่างกัน โดยพิจารณาจากคะแนนใน ภาค ก. ประกอบ ได้แก่ เลขที่ 7 ได้คะแนนรวม 100 คะแนน และได้คะแนนภาค ก. 40 คะแนน ได้ลำดับที่ 4 เลขที่ 6 ได้คะแนนรวม 100 คะแนน และได้คะแนนภาค ก. 30 คะแนน ได้ลำดับที่ 5 เลขที่ 1 ได้คะแนนรวม 100 คะแนน และได้คะแนนภาค ก. 20 คะแนน ได้ลำดับที่ 6 การเรียงลำดับลักษณะนี้ ใช้ฟังก์ชั่น Rank() อย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้ Sumproduct() เพื่อกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม วิธีการ มีดังนี ใช้ RANK.EQ() เพื่อหาลำดับที่ตามปกติ จะได้ดังนี้ จะเห็นว่า มีลำดับที่ซ้ำกัน คือ ลำดับที่ 2 มี 2 คน และ ลำดับที่ 4 มี 3 คน เกณฑ์ต่อมา คือต้องพิจารณาว่า ตำแหน่งที่เท่ากัน หรือซ้ำกัน ใครได้