บทความ

การใช้ All และ All of

รูปภาพ
จำง่าย ๆ ใช้ All of นำหน้าคำ pronoun เช่น us, you, it, him และ her เป็นต้น เช่น All of us went to the museum. พวกเราทั้งหมดไปที่พิพิธภัณฑ์ ใช้ All นำหน้าคำนาม ทั่ว ๆ ไป เช่น All the chairs in this room are very old. เก้าอี้ทั้งหมดในห้องนี้ เก่ามาก All the students in my class are coming. นักเรียนทั้งหมดในห้องของฉันจะมา ความจริง จะใช้ All of นำหน้าคำนามทั่ว ๆ ไป ก็ได้ ไม่ผิดไวยากรณ์ เช่น พูดว่า All of the students in my class are coming. นักเรียนทั้งหมดในห้องของฉันจะมา จะเห็นว่า ประโยคนี้ มีความหมายเท่ากับ All the students in my class are coming. ดังนั้น คำว่า of ในประโยคนี้ จึงไม่มีความหมายอะไร เป็นส่วนเกินที่ไม่จำเป็น ทำให้ฟุ่มเฟือย ไม่ใช่คำพูดที่สั้นและคม หรือ ที่เรียกว่ามัน  redundant ไม่ใช้จะดีกว่า ดาวน์โหลด App สอบ ก.พ. สำหรับ Android ฟรี ที่ Play Store ตามหลักสูตร ก.พ. ใหม่ มีแนวข้อสอบ มากกว่า 1,000 ข้อ มีเฉลยอย่างละเอียด มีคำอธิบายทุกข้อ มีสรุปและเทคนิคการทำข้อสอบ มีชุดข้อสอบให้ลองทำ พร้อมจับเวลา คลิกปุ่มข้างล่าง เพื่อไปดาวน์โหลด

ยกเลิกกรอบและเงาของภาพ ใน Dynamic Template ของ Blogger

รูปภาพ
การกำหนดใช้ หรือไม่ใช้กรอบภาพ และเงาของภาพ ใน Blogger สำหรับ Dynamic template สำหรับ Dynamic Template มีขั้นตอน ดังนี้ ไป Dashboard เลือก แม่แบบ เลือกกำหนดค่า เลือก ขั้นสูง เลือก เพิ่ม CSS พิมพ์โค้ดนี้ ในช่องที่กำหนด .entry-content img{ box-shadow: none !important; padding: 0px !important; border: 0px !important; margin: 7px !important; } กดปุ่ม Enter บนคีบอร์ด หลังเครื่องหมาย } คลิกปุ่ม ใช้กับบล็อก กลับไปดูหน้าเว็บ จะเห็นว่า ภาพไม่มีกรอบอีกต่อไป ถ้าจะให้มีกรอบเหมือนเดิม ก็ลบโค้ดที่พิมพ์เข้าไปออก ก็จะได้กรอบเหมือนเดิม ที่มา: http://www.southernspeakers.net/2011/11/remove-border-and-shadow-from-blogger.html

get in a car/ get on a bus/ get out of a car/ get off a bus

รูปภาพ
get in และ get on (ขึ้นรถ) get in ใช้กับรถยนต์ รถแท็กซี่ รถตู้(van) รถบรรทุก(truck) เรือขนาดเล็ก(boat) เรือแคนนู เป็นต้น The taxi pulled up and we got in. รถแท็กซี่คันนั้นมาจอดและพวกเราก็ขึ้น(รถแท็กซี่) Sheila got in her car and left. ชีลล่าขึ้นรถและ(ขับรถ)จากไป Watch our expert how to get in and out of a canoe in this video. (ไม่ใช่  Watch our expert how to get on and off a canoe in this video. ) ดูผู้เชี่ยวชาญของเรา(สาธิตการ)ขึ้นและลงเรือแคนูจากวิดีโอนี้ get on ใช้กับยานพาหนะขนาดใหญ่ เช่น รถประจำทาง รถไฟ รถไฟฟ้า เครื่องบิน  เรือเดินทะเล(shop) เป็นต้น We got on the train at Ayutthaya and went up to Pisanuloke. เราขึ้นรถไฟที่อยุธยาและเดินทางขึ้นเหนือไปพิษณุโลก สรุป ถ้าสามารถเดินขึ้นรถและเข้าไปยืนได้ ให้ใช้คำว่า get on นอกจากนั้น ให้ใช้ get in get on a bus/train/plane/ship/etc. get in a car/van/taxi/truck/boat/etc. get out of และ get off (ลงรถ) get out of ใช้กับรถยนต์ รถแท็กซี่ เรือ รถบรรทุก(truck) เป็นต้น We got out of the taxi and paid the driver. (ไม่ใช่  We got off the tax

การใช้ some any และ no

รูปภาพ
หลักการโดยทั่วไป some ใช้กับประโยคบอกเล่า ใช้กับนามนับได้ที่เป็นพหูพจน์ และนามนับไม่ได้ เช่น There are some books on the table. มีหนังสือ 2-3 เล่มบนโต๊ะนั้น (books = นามนับได้และเป็นพหูพจน์) There are some water left in the bottle. มีน้ำอยู่บ้างในขวดนั้น(water = นามนับไม่ได้)   any ใช้กับประโยคคำถามและปฏิเสธ ใช้กับนามนับได้ และนามนับไม่ได้ เช่น ประโยคคำถาม Do you have any pens? ดาวน์โหลด App สอบ ก.พ. สำหรับ Android ฟรี ที่ Play Store ตามหลักสูตร ก.พ. ใหม่ มีแนวข้อสอบ มากกว่า 1,000 ข้อ มีเฉลยอย่างละเอียด มีคำอธิบายทุกข้อ มีสรุปและเทคนิคการทำข้อสอบ มีชุดข้อสอบให้ลองทำ พร้อมจับเวลา คลิกปุ่มข้างล่าง เพื่อไปดาวน์โหลด คุณมีปากกาไหม(pens = นามนับได้และเป็นพหูพจน์) Do you have any money? คุณมีเงินบ้างไหม (money = นามนับไม่ได้) ถ้าใช้กับคำนามนับได้ที่เป็นเอกพจน์ ให้ใช้คำว่า a หรือ an แทน เช่น Have you got a pen? (ไม่ใช่ Have you got any pen? )    no มีความหมายเท่ากับ nor a หรือ not any สามารถใช้ได้ทั้งนามนับได้ที่เป็นเอกพจน์และพหูพจน์ ขึ้นอยู่กับความหมาย เช่น S

May/Can/Could I...?

รูปภาพ
การขออนุญาต จะขึ้นต้นประโยคด้วยคำว่า May I, Can I หรือ Could I ทั้ง 3 คำนี้ใช้ต่างกันอย่างไร May I ... ใช้ May ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างเป็นทางการ เช่น ใช้กับครู หรือ สุภาพชนที่ไม่คุ้นเคย ก็ได้ เช่น May I be excused? ขออนุญาตออกไปข้างนอก, ขออนุญาต ขอตัวก่อนนะครับ (เช่น จะขอตัวลุกออกไปก่อนจากโต๊ะอาหาร) Teacher, may I go to the bathroom? ครูครับ ขออนุญาตไปห้องน้ำ May I borrow your pen for a second? ขอยืมปากกาแป๊บนึงนะครับ May I speak to Mr. Brown, please? ขอพูดกับคุณบราวน์หน่อยได้ไหมครับ การใช้ May you.. . ห้ามใช้ May you เพื่อขอให้ใครทำอะไร เช่น May you open the door, please?  แต่ให้พูดว่า Can you open the door, please? ดีกว่า May you ใช้สำหรับการอวยพร หรือแสดงความปรารถนาดี เช่น May you live long. ขอให้อายุยืน May you be happy always. ขอให้มีความสุขนิรันดร์ Can I .... ใช้ Can เพื่อขออนุญาตในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการ หรือเหตุการณ์ทั่ว ๆ ไป ก็ใช้ได้ เช่น พูดกับญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนบุคคลทั่วไป ก็ได้ เช่น Can I speak to M

การใช้คำว่า suggest

suggest แปลว่าแนะนำ ในภาษาไทยเราพูดว่า ใคร + แนะนำ + ใคร + ให้ทำอะไร แต่ในภาษาอังกฤษ เราจะ ไม่ พูดว่า He suggested us that we should go to the beach. แต่ต้องพูดว่า He suggested that we should go to the beach. หรือ He suggested that we go to the beach. (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันจะไม่ใช้ should แต่จะตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ที่ไม่มี to นำหน้า) การใช้ suggest มีวิธีใช้ 3 ลักษณะ ใหญ่ ๆ คือ Suggest that someone do something (แนะนำว่า ใคร ทำอะไร) รูปประโยคที่ใช้คือ Subject + suggest + (that) + subject + กริยาช่อง 1 ที่ไม่มี to คำว่า that อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ตัวอย่างประโยค The company suggested (that) we take an extra day off. ไม่ใช่ The company suggested us to take an extra day off. She suggests (that) we go out for dinner after the movie. He suggested that Somsak go for a drink. (ไม่ใช่ goes for a drink) Suggest doing something (แนะนำ ให้ทำอะไร) รูปประโยคที่ใช้คือ

การใช้ the กับชื่อต่าง ๆ เช่น ชื่อแม่น้ำ อ่าว ภูเขา สะพาน เป็นต้น

รูปภาพ
ชื่อแม่น้ำ อ่าว ภูเขา สะพาน ชื่อคน ชื่อประเทศ ต่าง ๆ เหล่านี้ เรียกว่าเป็นชื่อเฉพาะ หรือ คำนามชี้เฉพาะ หรือวิสามานยนาม หรือ Proper Nouns ซึ่งถือว่าเป็นคำนามที่ใช้เรียกชื่อ คน สัตว์ และสิ่งของต่าง ๆ คำนามชี้เฉพาะพวกนี้เมื่ออยู่ในประโยคภาษาอังกฤษ จะต้องใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ขึ้นต้นเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ต้นประโยค หรือส่วนไหนของประโยคก็ตาม เช่น สุดา (ชื่อคน) สามสี (ชื่อแมว) Bangkok (ชื่อเมือง) Mount Everest (ชื่อภูเขา) เป็นต้น คำนามชี้เฉพาะเหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่ต้องมี article นำหน้า แต่บางคำก็มี the นำหน้า ทำให้สับสนอยู่มากเหมือนกัน กฏเกณฑ์ข้างล่าง แต่ละอย่างก็มีข้อยกเว้น จริง ๆ ต้องดูว่า ชื่อแต่ละชื่อ หน่วยงาน/องค์กร เจ้าของ หรือความนิยม เขาใช้กันอย่างไร ก็ใช้ตามนั้น ดาวน์โหลด App สอบ ก.พ. สำหรับ Android ฟรี ที่ Play Store ตามหลักสูตร ก.พ. ใหม่ มีแนวข้อสอบ มากกว่า 1,000 ข้อ มีเฉลยอย่างละเอียด มีคำอธิบายทุกข้อ มีสรุปและเทคนิคการทำข้อสอบ มีชุดข้อสอบให้ลองทำ พร้อมจับเวลา คลิกปุ่มข้างล่าง เพื่อไปดาวน์โหลด หลักโดยทั่วไป โดยทั่วไป ตามปกติ เราจะไม่ใช้ the นำหน้า ชื่อเฉพาะ ท

hair/a hair/hairs

รูปภาพ
โดยทั่วไปเราคิดว่า hair (ผม/ขน) เป็นคำนามที่นับไม่ได้ หรือ uncountable noun เช่น ในประโยคต่อไปนี้ I wash my hair once a week. ฉันสระผมสัปดาห์ละครั้ง I have my hair cut once a month. ฉันตัดผมเดือนละครั้ง My hair is black but it is turning grey. ผมของฉันสีดำ แต่มันกำลังเปลี่ยนเป็นสีเทา My cat loses a lot of hair. แมวของฉันขนร่วงเยอะเลย แต่ในบางโอกาส เราต้องการพูดถึงเส้นผมแต่ละเส้น ซึ่งในลักษณะเช่นนี้แล้ว hair จะใช้เป็นคำนามที่นับได้ หรือ countable noun ทำให้เราสามารถใช้คำว่า a hair หรือ hairs ได้ เช่น There is a hair in my soup. มีเส้นผมเส้นนึงอยู่ในซุปของฉัน I just pulled out one of your white hairs. ฉันถอนผมสีขาวของคุณออกไปเส้นนึง (ในจำนวนหลายเส้น)

การสร้างเส้นขอบให้ตัวอักษร ใน Photoshop

รูปภาพ
ในตัวอย่างนี้ เราจะสร้างเส้นขอบรอบตัวอักษร 2 ชั้น ดังภาพ วิธีการ เปิด ไฟล์ นำภาพเข้า และใช้ Type Tool เขียนข้อความ คลิกที่ชั้นของตัวหนังสือ แล้วคลิกที่ไอคอน Fx ด้านล่าง เลือก Stroke จะเปิดหน้าจอให้ตั้งค่าต่าง ๆ สำหรับ stroke ให้เลือก Fill Type เป็น Color เลือกสีที่ต้องการ และ กำหนดความหนา (Size) เป็น 3 px คลิก OK จะได้ตัวอักษรที่มีเส้นขอบ ดังภาพ สำหรับเส้นรอบตัวอักษรชั้นที่ 2 เราจะคัดลอกเอาสิ่งที่ทำแล้วมาปรับ คลิกขวาที่ชั้นตัวหนังสือที่มีเส้นกรอบที่ทำไว้แล้ว และเลือก Duplicate Layer จะเห็นว่ามีชั้นตัวหนังสือ 2 ชั้น ให้ดับเบิ้ลคลิกที่คำว่า Stroke ของชั้นล่าง จะเกิดหน้าจอให้ปรับค่า ให้เพิ่มค่า Size ให้มากขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนสี เป็นสีอื่น  เมื่อคลิก OK จะได้ตัวหนังสือ ที่มีเส้นขอบ 2 ชั้น คลิกที่บริเวณนอกตัวหนังสือ เพื่อเอาเส้นล้อมรอบตัวหนังสือออก จะได้ ดังภาพ

It doesn't matter. กับ Don't mention it.

รูปภาพ
คำว่า It doesn't matter. กับคำว่า Don't mention it. คนไทยเรามักจะแปลว่า ไม่เป็นไรทั้งสองคำ แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองคำนี้ ใช้ไม่เหมือนกัน It doesn't matter. - ใช้ตอบรับคำขอโทษ เมื่อคิดว่าเรื่องนั้น ๆ ไม่สำคัญ ทำนองว่าเป็นการปลอบใจผู้พูดด้วยว่า ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตัวอย่างประโยค A: I'm sorry. I broke you mug. ขอโทษ ฉันทำเหยือกของคุณแตก B: It doesn't matter. It was old and I was going to throw it away. ไม่เป็นไร มันเก่าแล้ว และผมก็กำลังจะเอาไปทิ้งอยู่แล้ว - มีความหมายเหมือนกับ Never mind. Don't mention it.  - ใช้สำหรับตอบรับคำขอบคุณ ทำนองว่า สิ่งที่ทำให้เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ ตัวอย่างประโยค A: Thank you for the drive. ขอบคุณที่ขับรถมาส่ง B: Don't memtion it. ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น การตอบรับคำขอบคุณ ยังมีอีกหลายคำ เช่น You're welcome.  ด้วย

Do you like ... VS Would you like ....

รูปภาพ
หลายคนมักจะสับสน ระหว่างคำว่า Do you like .... กับ Would you like .... และมักจะใช้สลับกัน ไม่ถูกต้อง Do you like ...  - ใช้ถามเกี่ยวกับความชอบทั่ว ๆ ไป เช่นถามว่า เธอชอบไปซื้อของไหม Do you like shopping? คุณชอบข้าวหรือไม่ Do you like rice? - สามารถตามด้วยคำนาม (ตามตัวอย่างข้างบน) หรือถ้าตามด่วยคำกริยา ก็สามรรถใช้ได้ทั้ง กริยาเติม ing และ กริยาที่มี to นำหน้า เช่น ฉันชอบว่ายน้ำในแม่น้ำ I like swimming in the river. หรือ I like to swim in the river. ดาวน์โหลด App สอบ ก.พ. สำหรับ Android ฟรี ที่ Play Store ตามหลักสูตร ก.พ. ใหม่ มีแนวข้อสอบ มากกว่า 1,000 ข้อ มีเฉลยอย่างละเอียด มีคำอธิบายทุกข้อ มีสรุปและเทคนิคการทำข้อสอบ มีชุดข้อสอบให้ลองทำ พร้อมจับเวลา คลิกที่ปุ่มเพื่อไปดาวน์โหลด Would you like ... - ใช้พูดเมื่อต้องการเสนอ หรือถามความต้องการ เช่น พนักงานบริการ ต้องการถามลูกค้าว่า จะเอากาแฟไหม ถามว

ride, go for a ride, take someone for a ride

รูปภาพ
คำว่า ride มีความหมายได้หลายอย่าง เช่น ride เป็นคำกริยา  หมายถึงเดินทาง โดยใช้ยานพาหนะ  เช่น ขี่ม้า = ride a horse (ride on a horse - แบบอังกฤษ) นั่งรถบัส = ride a bus (ride on a bus - แบบอังกฤษ) ขี่มอเตอร์ไซต์ = ride a motorcycle เป็นต้น ตัวอย่างประโยค Can you ride a bike? คุณขี่จักรยานได้ไหม I learned to ride a bike when I was six. ผม/ฉันหัดขี่จักรยานตอนอายุได้ 6 ขวบ I ride my moped to work. ผม/ฉันขี่มอเตอร์ไซต์ไปทำงาน We rode the train from Ayutthaya to Bangkok. เราโดยสารรถไฟจากอยุธยาไปกรุงเทพ หมายถึงการบังคับ ข่มขู่ให้ทำงาน เช่น Your boss is riding you much too hard at the moment.  หัวหน้าบังคับคุณมากเกินไปนะตอนนี้ ride เป็นคำนาม หมายถึง การเดินทางด้วย ม้า รถ หรือ พาหนะต่าง ๆ  เช่น It's a short bus ride to the airport. นั่งรถบัสไปไม่ไกลก็ถึงสนามบิน I went for a horse ride last Saturday. ผม/ฉันไปขี่ม้าเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว  

การสร้างลิงค์ใน DialogFragment ของ Android 1.5

รูปภาพ
มีหลายครั้งที่เราต้องการสร้างลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บต่าง ๆ ใน DialogFragment ของ Android ดังภาพ หลักการ โดยปกติเราจะไม่สามารถใช้ลิงค์ไปยังหน้าเว็บอื่น ๆ จาก DialogFragment ได้ ถ้าต้องการให้มี Link เราต้องจัดการข้อความที่จะให้แสดง โดยทำให้เป็น SpannableString เสียก่อน ใช้ Linkyfy สร้างลิงค์ นำไปไว้ใน TextView และเอา TextView ไปไว้ใน Dialog อีกที จึงจะได้ลิงค์ตามต้องการ วิธีการ สร้างไฟล์ใหม่ ตั้งชื่อว่า AlertDialogWithLink สร้าง Java Class ชื่อ MyDialogFragment.java สำหรับเป็น adapter สร้าง Dialog MyDialogFragment.java package com.thongjoon.alertdialogwithlink; import android.app.AlertDialog; import android.app.Dialog; import android.app.DialogFragment; import android.os.Bundle; import android.text.SpannableString; import android.text.method.LinkMovementMethod; import android.text.util.Linkify; import android.widget.TextView; public class MyDialogFragment extends DialogFragment { @Override public Dialog onCreateDialog(Bundle savedInstanceState) { //

เกี่ยวกับ คอเลสเตอรอล: เรื่องต้องรู้

รูปภาพ
มารู้จัก คอเรสเตอรอล(Cholesterol) ของทุกคน แปลกใจไหม ถ้าจะบอกว่า คอเลสเตอรอลเป็นสิ่งดีและมีประโยชน์ ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอย่างที่คิด คอเลสเตอรอลเป็นสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นและใช้เพื่อรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพสมบูรณ์ คอเรสเตอรอล พบในกระแสเลือดและในเซลล์ทุกเซลล์ของร่างกาย คอเรสเตอรอลช่วยสร้างเยื่อหุ้มเซลล์( cell membranes ) ช่วยนำพาไขมันไปในกระแสเลือด ช่วยสร้างฮอร์โมนให้แก่ร่างกาย วิตามินดี และ กรดไบ ( bile acids ) ซึ่งช่วยในการย่อยไขมัน คอเรสเตอรอลยังช่วยด้านความจำ และการทำงานของสมองอีกด้วย โดยเฉพาะในด้านการทำงานของสมอง นับได้ว่า คอเรสเตอรอลมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก คอเรสเตอรอลจำนวนประมาณ 3 ใน 4 ของจำนวนคอเรสเตอรอลทั้งหมดในร่างกาย สร้างขึ้นจากตับของคนเรา หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คอเรสเตอรอลส่วนใหญ่ที่มีในร่างกายของเรานั้น เกิดขึ้นจาก  ตับของเราสร้างขึ้น  นั่นเอง LDL และ HDL Cholesterol โมเลกุล ชื่อ  lipoproteins เป็นโมเลกุลที่พาคอเรสเตอรอลไปในกระแสเลือด โมเลกุล lipoproteins มี 2 ชนิดคือ  LDL ( low-density lipoprotein) และ HDL (high-density lipoprotein) ซี่งเรียกว่าเป็น LDL Cholesterol แล

การใช้ How do you like...? How much do you like...?

รูปภาพ
คำถามที่ขึ้นต้นด้วย คำว่า How do you like....? เป็นคำถามที่กำกวมเหมือนกันนะ How do you like ..... ? คุณชอบ...... มากแค่ไหน? หรือ How do you like ..... ? คุณชอบ...... อย่างไร? ลองดูประโยคต่อไปนี้ How do you like your steak? ถ้าพนักงานบริการอาหารถามคำถามนี้ในร้านอาหาร คำตอบก็คงจะเป็น medium-rare หรือ well done จะสุกมาก หรือ สุกน้อย ก็แล้วแต่ชอบ How do you like ..... ? ในความหมายนี้ ก็คงจะเป็นในทำนองว่า ชอบให้ทำสะเต็กอย่างไรนั่นเอง แต่ถ้าเพื่อนถามว่า How do you like steak? คำตอบก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ชอบสุกมาก หรือสุกน้อย ตามข้างบน แต่ ก็ไม่ผิดนะ ถ้าจะตอบว่า It's not my favorite. ผมไม่ค่อยชอบซักเท่าไร ไม่ใช่ของโปรดของผม How do you like.....? ในความหมายหลังนี้ น่าจะเป็นไปในทำนองว่า ชอบมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม คนถามก็อาจจะงงนิดนึง ว่า ต้องการถามอีกอย่าง แต่ตอบอีกอย่าง งงเหมือนกัน ผมก็งงเหมือนกัน ทางที่ดี เวลาถาม ต้องถามให้ชัดลงไป จะดีกว่า โดยเฉพาะถ้าไม่มีสถานการณ์อะไรช่วย ต้องถามให้ชัดเจน เช่น คุณชอบสะเต็กแบบไหน สุกมาก หรือสุกน้อย ก็ถามว่า How do you like your ste

การตัดช่องว่างเว้นวรรคระหว่างคำ ใน MS Word 2010

รูปภาพ
สภาพปัญหา  เวลาคนไทยพิมพ์ภาษาอังกฤษ บางทีเว้นวรรคระหว่างคำ มากกว่า 1 วรรค ซึ่งไม่ถูกต้อง ทำให้เสียเวลาต้องมาแก้ไขลบวรรคออก ซึ่งต้องใช้เวลามาก ดังภาพ หลักการแก้ไข ใช้ Regular Expressions ค้นหาและแทนที่ โดยการค้นหาเว้นวรรคหลังคำแต่ละคำ ถ้ามีตั้งแต่ 2 วรรคขึ้นไป ก็ให้แทนที่ด้วยเว้นวรรค จำนวน 1 วรรค วิธีการ เปิดไฟล์ MS Word ที่มีข้อความที่ต้องแก้ไข ไปที่แถบ Replace หรือ แทนที่ ที่ช่อง ค้นหา ให้พิมพ์ ( ){2,} และช่อง แทนที่ ให้พิมพ์ \1 และคลิกปุ่ม เพิ่มเติม เลือก ใช้ Wildcard กดปุ่ม แทนที่ทั้งหมด จะเกิดหน้าจอ รายงานให้ทราบว่า พบและแทนที่ตามคำสั่งทั้งหมด กี่ตัว คลิกปุ่ม OK และปุ่ม ปิด Close จะได้ข้อความที่แก้ไขแล้ว ดังภาพ ถ้าต้องการยกเลิก ให้กด Ctrl+z จะคืนค่าให้เหมือนเดิม ดูวิธีการใช้ Regular Expression สำหรับการค้นหา และแทนที่ได้ ที่ https://support.office.com/en-us/article/Find-and-replace-text-by-using-regular-expressions-Advanced-eeaa03b0-e9f3-4921-b1e8-85b0ad1c427f#__toc282774574