บทความ

มะเขือพวง

รูปภาพ
มะเขือพวง มีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนไทยคือ ช่วยเจริญอาหาร ย่อยอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนดี แก้ฟกช้ำ ไอเป็นเลือด ฝีบวมมีหนอง ผลดิบของมะเขือพวง ใช้เป็นยาแก้ไอ ขับปัสสาวะและช่วยย่อยอาหาร การกินผลมะเขือพวงดิบเป็นอาหาร (เช่น ในเครื่องจิ้มชนิดต่าง ๆ) ก็คงมีสรรพคุณทางยาด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว มะเขือพวงยังเป็นอาหาร รับประทานดิบ ๆ จิ้มน้ำพริก หรือนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง แต่ที่ขึ้นชื่อคงไม่พ้น แกงเนื้อมะเขือพวง และแกงเขียวหวาน มะเขือพวงมีสารอาหารหลายอย่าง เช่น คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล เส้นใยอาหาร ไขมัน โปรตีน วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 โฟเลต วิตามินซี แคลเซี่ยม เหล็ก แม็กนีเซียม ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แมงกานีส เป็นต้น มะเขือพวงเป็นพืชที่มีอายุยืน ปลูกไว้ 2-3 ต้น จะมีมะเขือพวงไว้กินตลอดปี มะเขือพวงปลูกง่าย ไม่ต้องการการดูแลรักษามากนัก ขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย การปลูกมะเขือพวง มะเขือพวงสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น การเพาะเมล็ด,การปักชำลำต้น,การปักชำราก,การปักชำยอด,การตอนกิ่ง หรือการเพาะเลี้ยงเน

โฟเลต สารอาหารสำหรับทารกและหญิงมีครรภ์

โฟเลต (Folate) เป็นวิตามินในกลุ่มวิตามินบีที่ละลายน้ำได้ มีในผักสีเขียว folate มาจากภาษาละตินว่า folium หมายถึงใบไม้ โฟเลต นอกจากจะได้จากผักสีเขียวแล้ว ยังมีในอาหารอื่น ๆ อีก เช่น ผลไม้ ถั่ว มะเขือเทศ และน้ำส้ม เป็นต้น โฟเลต ช่วยสังเคราะห์ยีนหรือสารพันธุกรรม (DNA) ให้คงรูปโครโมโซม จำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์ และการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อต่าง ๆ จึงจำเป็นสำหรับทารกที่กำลังเจริญเติบโต และหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ช่วยลดโอกาสการเป็นโรคโลหิตจาง และช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิด โฟเลตช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยเผาผลาญโปรตีนสำหรับร่างกาย ช่วยในการแบ่งเซลล์และการเจริญเติบโตของเซลล์ ช่วยป้องกันความพิการ ไม่สมประกอบ (neural tube defects) ของทารกที่จะเกิดมาดูโลก ความพิการนี้ อาจจะเกิดขึ้นได้ ในช่วงวันที่ 17-30 หลังการปฏิสนธิ ทำให้เด็กที่ออกมามีลักษณะที่ผิดปกติไปมาก จากเด็กทั่ว ๆ ไป ร่างกายต้องการโฟเลตไม่มากในแต่ละวัน ปกติหน่วยสารอาหารทั่ว ๆ ไป มีหน่วยเป็นมิลิกรัม แต่ ความต้องการโฟเลต มีหน่วยเป็นไมโครกรัม ซึ่งน้อยกว่ามิลิกรัมอยู่ หนึ่งพันเท่า หนึ่งกรัม เท่ากับ หนึ่งล้านไมโครกรัม คณะกรรมการจั

มะเขือ

รูปภาพ
มะเขือ เป็นพืชผักพื้นบ้าน ปลูกง่ายทุกฤดู และมีอายุยืน จึงเหมาะที่จะเป็นพืชสวนครัว เพราะอยู่ได้นาน และนำมารับประทานสดจากต้น อร่อยและได้คุณค่ามากกว่าซื้อที่ตลาด มะเขือ มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มากกว่า 80 ชนิด โดยเฉพาะในมะเขือ มีสาร phytonutrients ซึ่งเป็นตัวกำจัดอนุมูลอิสระ (antioxidants) ที่ทรงประสิทธิภาพ โดยทำงานร่วมกับวิตามินและแร่ธาตุ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเรามีความแข็งแกร่งซึ่งจะช่วยป้องกันอันตรายจากโรคร้ายต่าง ๆ ได้ ที่ผิวของมะเขือมี nasuin ซี่งเป็นหนึ่งในจำนวนสารที่ประกอบเป็น photonutrients สาร nasuin ช่วยป้องกัน lipids ที่เยื่อหุ้มสมอง ช่วยป้องกันการโจมตีของอนุมูลอิสระ ทำให้สมองทำงานได้ตามปกติ Nasuin ช่วยกำจัดธาตุเหล็ก (iron) ส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการ ถ้าร่างกายมีธาตุเหล็กมากเกินไป จะทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด (cardiovascular disease) และเสื่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิด Nasuin ช่วยป้องกันข้อต่อ จากการเข้าทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) นอกจากนี้ ในมะเขือยาว มีสารประกอบ phenolic compounds ช่วยลดระดับคอเลสเต

ผักบุ้งจีน (Water Convolvulus หรือ Water Spinach)

รูปภาพ
ผักบุ้งจีนเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยต้านทานโรค วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา คนโบราณบอกว่า กินผักบุ้งแล้วตาหวาน ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วย โปแตสเซี่ยม ซึ่งที่มีหน้าที่ควบคุมความสมดุลของน้ำในร่างกาย และมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกายเราหลายอย่าง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจ เป็นต้น และนอกจากนี้ ผักบุ้งจีนยังช่วยป้องกันจอตา (Retina) เสื่อมได้ในผู้สูงอายุ การปลูกผักบุ้งจีน ผักบุ้งจีนปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด ดินที่เหมาะสมในการปลูกผักบุ้งจีน คือดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย ผักบุ้งจีนชอบชื้นแฉะ ต้องการความชื้นในดินสูงมากอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตอยู่ในช่วงที่สูงกว่า 25 องศาเซลเชียส ต้องการแสงแดดเต็มที ซึ่งประเทศไทยสามารถปลูกได้ดีตลอดไป โดยมีวิธีปลูกง่าย ๆ ดังนี้ ขั้นตอนในการปลูก 1. ทำแปลงปลูกผัก ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักใส่ผสมลงไปเพื่อให้ดินร่วนซุย สมบูรณ์ 2. เกลี่ยดินให้เสมอกัน และขีดเป็นแถวๆ ห่างกันประมาณ 12 - 15 ซม. ขวางทางยาวของแปลง 3. นำเมล็ดไปแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน (ถ้าต้องการให้งอกเร็วให้ต้มน้ำให้เดือดนำไปผสมกับน้ำให้อุณหภูมิอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส นำเมล็ดแช่น้

การปลูกผักสวนครัว ตามฤดูกาล

รูปภาพ
ผักสวนครัว ถ้าปลูกตามฤดูกาล จะได้ผลดี เพื่อให้ได้อุณหภูมิ และน้ำพอเหมาะ พืชบางอย่างต้องการน้ำน้อยและทนร้อน ก็ปลูกในฤดูร้อนได้ พืชบางชนิดต้องการอากาศหนาวจึงจะได้ผลดี พืชผักที่ควรปลูกในฤดูต่าง ๆ มีดังนี้ ผักที่ปลูกได้ตลอดปี ได้แก่ กวางตุ้ง คะน้า ผักตระกูลแตง ผักตระกูลถั่ว ผักตระกูลมะเขือ หอมแดง หอมแบ่ง สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง แมงลัก โหระพา กะเพรา ผักตำลึง ผักบุ้งไทย กระชาย ข่า ตะไคร้ บัวบก มะแว้ง มะเขือพวง พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู เป็นต้น พืชเหล่านี้ปลูกได้ตลอดปี และปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย ผักที่ควรปลูกใน ต้นฤดูฝน คือ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม ได้แก่ หอมแบ่ง ผักกาดเขียวกวางตุ้ง ผักบุ้ง คะน้า พริกต่างๆ มะเขือต่างๆ ผักกาดหัว ผักกาดหอม บวบ มะระ ฟักเขียว แฟง แตงกวา ข้าวโพดหวาน ถั่วฝักยาว ถั่วพุ่ม น้ำเต้า ถั่วพู กระเจี้ยบเขียว ผักที่ควรปลูก ปลายฤดูฝน ผักใดที่ปลูกต้นฤดูฝนก็ปลูกได้ผลดีในปลายฤดูฝน ยิ่งกว่านั้นยังปลูกผักฤดูหนาวได้อีกด้วย เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปม บร็อคโคลี่ ถั่วลันเตา หอมหัวใหญ่ แครอท แรดิช ผักชี ผักกาดเขียวปลี ผักกาดขาวปลี ผักกาดหอมห่อ ข้าวโพดหวาน แตงเท

การรับประทานผัก ให้ปลอดภัย

ผักให้ประโยชน์ต่อร่างกายมาก แต่พบว่าในตลอด มีสารตกค้างมาก ซี่งเกิดจากการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม ถ้าเกษตรกรใช้วิธีเกษตรอินทรีย์ จะช่วยลดทั้งเงินลงทุน และความปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เกษตรอินทรียยังไม่แพร่หลายมาก วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการปลูกผักสวนครัวรับประทานเอง จะช่วยลดการซื้อผักจากตลาด ลดการเสี่ยงจากสารพิษลงได้มาก อย่างไรก็ตาม เราคงต้องซื้อผักจากตลาดมารับประทาน เราจึงต้องมีวิธีการลดปริมาณสารพิษในพืชผัก ก่อนการปรุงอาหาร ซึ่งมีอยู่หลายวิธี ดังนี้ 1. ลอกหรือปอกเปลือก แล้วแช่น้ำสะอาดนาน 5-10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 27-72 2. แช่น้ำปูนใส นาน 10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 34-52 3. การใช้ความร้อน ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 48-50 4. แช่น้ำด่างทับทิม นาน 10 นาที (ด่างทับทิม 20-30 เกล็ด) ผสมน้ำ 4 ลิตร) ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 35-43 5. ล้างด้วยน้ำไหลจากก๊อก นาน 2 นาที ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 25-39 6. แช่น

วิตามินบี

วิตามินบี เป้นกลุ่มวิตามินที่ละลายน้ำได้ ทำหน้าที่หลักในการช่วยในการเผาผลาญอาหาร (metabolism) เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรท ไขมัน รวมทั้งช่วยการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหาร อีกด้วย วิตามินบี เมื่อก่อนคิดกันว่าเป็นวิตามินเดียว หรือ วิตามินซี แต่ ต่อมาพบว่า มันเป็นกลุ่มของวิตามินที่มีองค์ประกอบทางเคมีแตกต่างกัน ที่มักพบว่ามีในอาหารชนิดเดียวกัน วิตามินบีรวม (Vitamin B complex) ประกอบด้วย 8 ชนิดคือ Vitamin B1 (thiamine) Vitamin B2 (riboflavin) Vitamin B3 (niacin or niacinamide) Vitamin B5 (pantothenic acid) Vitamin B6 (pyridoxine, pyridoxal, or pyridoxamine, or pyridoxine hydrochloride) Vitamin B7 (biotin) Vitamin B9 (folic acid) Vitamin B12 (various cobalamins; commonly cyanocobalamin in vitamin supplements) ประโยชน์ของวิตามินบี ช่วยการเผาผลาญอาหารของร่างกายให้ดีขึ้น ช่วยบำรุงผิวหนังและกล้ามเนื้อ ช่วยการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกายและระบบประสาท ช่วยในการแบ่งตัวของเซลล์ และการเจริญเติบโตของเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคโลห

วิตามินบี 1

รูปภาพ
วิตามินบี 1 หรือ Thiamine เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต มีหน้าที่สำคัญ คือ เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการเผาผลาญอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน ทำให้เกิดพลังงานเพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญของ ระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านนำกระแสความรู้สึกของเส้นประสาท ถ้าร่างกายได้รับวิตามินบีหนึ่งไม่เพียงพอ จะทำให้เป็น โรคเหน็บชา โรคนี้เกิดได้กับบุคคล ทุกกลุ่มอายุ สำหรับเด็กทารกถ้าเป็นโรคเหน็บชา ( Infantile beriberi) จะมีอัตราการเสียชีวิตสูง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันต่อโรค ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินบี 1 ได้ จึงได้ต้องได้รับวิตามินบี 1 จากการบริโภคอาหาร อาหารที่มีวิตามินบี 1 วิตามินบี 1 จากสัตว์ ได้แก่ เนื้อหมู ปลา ปลาดุก ปลาทูนึ่ง ไก่ ตับ และ ไข่ เป็นต้น วิตามินบี 1 จากพืช เช่น ข้าวกล้อง ขาวซ้อมมือ ข้าวหอมมะลิ งาขาว งาดำ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วแระ มะเขือพวง เป็นต้น การเก็บรักษาอาหารให้คงคุณค่า ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาความสดของอาหาร โดยเฉพาะนม หรือข้าว ไม่ควรให้ถูกแสงแดดโดยตรง จะทำให้สูญเสียคุณค่าอาหารโดยไม่จำเป็น

กินผัก ผลไม้ ได้อะไร

รูปภาพ
กินผัก ผลไม้ ช่วยลดความเสี่ยงได้หลายโรค เช่น โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง โดยเฉพาะ มะเร็งลำไส้(Bowel cancer)โรคหอบหืด (Asthma) ช่วยให้ลำใส้ทำงานดีขึ้น และช่วยไม่ให้เกิดต้อกระจก(Cataracts) การกินผัก และผลไม้ ยังได้รับวิตามิน และ เส้นใยอาหาร ช่วยลดการบริโภคไขมัน และช่วยรักษาน้ำหนัก ใช้แทนขนมหวาน ที่มีน้ำตาล ทำให้ฟันผุ เสียสุขภาพ กินผักและผลไม้ ช่วยลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ หัวใจวาย หรือแม้แต่ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิด ช่วยระบบการย่อยอาหาร ลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด และป้องกัน Cataract และ Macular Degeneration ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สูญเสียการมองเห็น จาก ผลการวิจัย จากการติดตาม ภาวะสุขภาพและพฤติกรรมการบริโภค ของชาย-หญิง ประมาณ 110,000 คน เป็นเวลา 14 ปี พบว่า ยิ่งกินผักและผลไม้สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยนในแต่ละวันมากเท่าใด ก็ยิ่งลดโอกาสในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดมากเท่านั้น ผักและผลไม้ ช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นสาเหตุสำหรับของโรคหัวใจ (Heart disease) และ การอุดตันของเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมอง(Stroke) The World Cancer Research Fund และ The American Institute for Cancer Rese

วิตามินอี

วิตามินอี มีประโยชน์ ดังนี้ ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต หรือรังสี UV (ultraviolet) ป้องก้นความเสียหายของเซลล์อันเนื่องมาจาก อนุมูลอิสระ (Free radicals) ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก และ โรค Alzheimer วิตามินอี ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ (coronary heart disease) ป้องกันเลือดจับตัวกันเป็นลิ่ม ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดหัวใจวาย วิตามินอี ช่วยชะลอความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ ทำให้เซลล์สื่อสารกัน (Cell communication)ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่เซลล์ในร่างกายสื่อสารกันได้ดี จะนำไปสู่ "การรักษาดุลยภาพ" (Homeostasis) เป็นดุลยภาพอันนำมาซึ่งการมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจอย่างยั่งยืน อาการที่สังเกตเห็นได้ เมื่อขาดวิตามินอี มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อย โดยเฉพาะด้านการดูดซีมอาหาร รู้สึกเสียวซ่า หรือหมดความรู้สึก บริเวณ แขน มือ ขา หรือเท้า มีปัญหาเกี่ยวกับตับ หรือถุงน้ำดี วิตามินอีมีในอาหารหลายชนิด เช่น จำพวกเนื้อสัตว์ ไก่ ปลา หมู เนื้อวัว ตับ ไข่ นมเนย หรืออาหารจำพวกผัก เช่น ฟักทอง ผักกาดหอม ถั่ว มะเขือเทศ หัวผักกาด หัวแครอท คึ่นไช่ มันเทศ ผลไม้จำพวกส้มเขียวหวาน ส้มโอ นอก

วิตามินเอ

วิตามินเอ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก วิตามินเอ ช่วยสร้างเซลล์ของร่างกาย และผิวหนัง วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา อาการแรกที่มักจะพบในคนที่ขาดวิตามินเอ คือ มองไม่ค่อยเห็นในเวลากลางคืน ช่วยพัฒนาการของทารกในครรภ์ วิตามินเอ ช่วยบำรุงผิวหนัง เนื้อเยื่อในจมูก และปากให้สมบูรณ์แข็งแรง วิตามินเอ ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค สร้างกระดูก การเจริญพันธ์ ตลอดจนช่วยรักษาบาดแผลต่าง ๆ วิตามินเอ ได้มาจาก 2 แหล่ง คือ จากสัตว์ (Retinoids)เช่น เนื้อสัตว์ นม เนย ไข่ ตับ และน้ำมันตับปลา เป็นต้น และ วิตามินเอที่ได้จากพืช (Carotenoids)ร่างกายจะเปลี่ยน เบต้า แครอทีน(Beta-carotene)ที่ได้จากพืชให้เป็นวิตามินเอ และเก็บไว้ที่ตับของเรา พืชผักผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม แดง และเขียวเข้ม มีเบต้าแครอทีนสูง เช่น ตำลึง ผักหวาน ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ มะละกอ ใบยอ คะน้า และสะระแหน่ เป็นต้น สตรีมีครรภ์ ควรได้รับวิตามินเออย่างเพียงพอ เพื่อประโยชน์แก่บุตรในครรภ์ ควรรับประทานอาหารที่จะได้รับวิตามินเอสูง เช่น ตับ ตำลึง ฟักทอง มะเขือเทศ คะน้า เป็นต้น การทำอาหารให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากวิตามินเอ

วิตามินซี

รูปภาพ
วิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ มีความจำเป็นที่ร่างกายต้องได้รับ เพื่อการพัฒนาการเจริญเติบโตของร่างกาย วิตามินซี ละลายน้ำได้ ส่วนเกินจึงถูกขับออกทางปัสสาวะ ดังนั้น ร่างกายจึงต้องการวิตามินซีตลอดเวลา ประโยชน์ของ วิตามินซี วิตามินซี เสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยสร้างคอลลาเจน(collagen)ซึ่งเป็นโปรตีนสำหรับผิวหนัง เส้นเอ็น เนื้อเยื่อแผลเป็น (scar tissue)และเส้นเลือด วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการสมานแผล ซ่อมแซม บำรุงรักษากระดูกอ่อน (cartilage) กระดูก และฟัน วิตามินซี เป็นหนึ่งในตัวต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)ที่จะทำความเสียหายให้กับเซลล์ในร่างกาย ทำให้แก่เร็ว และเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคไขข้อ (arthritis)เป็นต้น นอกจากนี้ วิตามินซี ยังช่วยลดความเสียหายของร่างกายซึ่งเกิดจากพิษของสารเคมีและมลภาวะ เช่น ควันบุหรี่ เป็นต้น วิตามินซี ช่วยบรรเทาความรุนแรงและระยะเวลาของการเป็นโรคหวัด หากเริ่มรับประทาน วิตามินซี ตั้งแต่เริ่มแรกที่เห็นอาการของโรคหวัด จะช่วยให้อาการป่วยลดความรุนแรงและหายได้เร็วขึ้น วิตามินซี ช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น เนื่องจาก วิตามิ

มะระ

รูปภาพ
มะระ มะระไทย หรือ มะระขี้นก(Bitter gourd) เป็นผักราคาถูก ปลูกง่าย แต่มีคุณค่าทางอาหารมากมาย มะระ เป็นทั้งอาหารและมีคุณสมบัติเป็นยา ในมะระ มีธาตุอาหาร ฟอสฟอรัส แมงกานิส แมกนีเซียม สังกะสี Thiamine Foliate และ Riboflavin รวมทั้งวิตามิน บี 1 บี 2 บี 3 และ วิตามินซี นอกจากนี้ยังมี แคลเซี่ยม เหล็ก และเบต้าแครอทีน (Beta-carotene) สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรรับประทานมะระตอนท้องว่าง จะช่วยได้ แต่อย่างรับประทานมากเกินไป จะทำให้ท้องร่วง ท้องเดินได้ น้ำของมะระมี Polypeptide ซึ่งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและปัสสาวะ Polypeptide เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นอินซูลินพืช (Plant-insulin) ในมะระ มี Charantin ซึ่งใช้รักษาโรคเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด น้ำของมะระยังใช้รักษาโรคพิษสุราเรื้อรัง (Alcoholism) ช่วยซ่อมแซมตับ นอกจากนี้ ถ้าผสมกับนมจะช่วยบรรเทาริดสีดวงทวารได้ หรือใช้รากของมะระตำมาโปะที่ริดสีดวงก็ได้ เบต้าแครอทีน (Beta-carotene)ในมะระ ช่วยเกี่ยวกับดวงตา ทำให้การมองเห็นดีขึ้น มะระไม่มีคอเรสเตอรอลหรือไขมัน ช่วยทำให้เลือดบริสุทธิ์ และช่วยการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยระบบกา

พริกขี้หนู

รูปภาพ
พริก อาหารเพิ่มรสชาดประจำครัวเรือน ถ้าไม่มีพริก โลกคงจะจืดชืดน่าดู นอกจากรสที่เผ็ดร้อนแล้ว พริกยังให้ประโยชน์อีกมากมายหลายอย่าง พริกช่วยหลั่งน้ำย่อย ทำให้อยากอาหาร การรับประทานพริกช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น พริกช่วยปรับปรุงสภาพผิว และช่วยสลายไขมัน ซึ่งจะทำให้รูปร่างเพรียวสวยงาม พริกอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค วิตามิน บี 16 โปแตสเซี่ยม ทองแดง แมงกานิส เส้นใยอาหาร ไทอะมิน Riboflavin ไนอาซิน โฟเลต เหล็ก แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส พริก มีไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat)ต่ำ มีคอเสลเตอรอล ต่ำ และมีโซเดียมต่ำ พริกยังมีตัวต้านอนุมูลอิสระ พริกช่วยทำลายคอเลสเตอรอลตัวร้าย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรรับประทานพริกหลังอาหารจะช่วยควบคุมระดับอินซูลิน (Insulin) ส่วนประกอบที่สำคัญของพริกคือ Capsaicin ซึ่งช่วยรักษาและบรรเทา การอักเสบ โรคไขข้อ รูมาตอย โรคหอบหืด นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกได้อีกด้วย พริกสามารถรับประทานเพื่อช่วยลดอาการเจ็บปวด เพราะจะไปกระตุ้นให้ปล่อยสาร Endorphins ซึ่งระงับความเจ็บปวด และยังช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เป็นยาตามธรรมชาติ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาหารปวดศีรษะจา

เส้นใยอาหาร

รูปภาพ
เส้นใยอาหาร (Dietary Fiber) พูดกันมานานเรื่องเส้นใยอหาร บางคนบอก Fiber แต่จริง ๆ แล้ว เส้นใยอาหารคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร เส้นใยอาหาร มาจากพืชผัก ผลไม้ ถั่ว เป็นต้น จัดเป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรทที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ เส้นใย อาหารไม่มีแคลอลี่ และไม่ให้พลังงาน ดังนั้น เส้นใยอาหารจึงไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือก แต่จะไหลผ่านระบบย่อยออกนอกร่างกาย เป็นกากอาหาร เส้นใยอาหารไม่ใช่ไหลผ่านระบบย่อยไปเฉย ๆ แต่ทำหน้าที่ที่มีประโยชน์ อาหารที่มีเส้นใยจะกินพื้นที่มากกว่าอาหารที่ไม่มีเส้นใย ผลคือทำให้เรารู้สึกอิ่มมากกว่า(increased satiety) และความรู้สึกอิ่มอยู่คงทนมากกว่า เพราะ อาหารที่มีเส้นใยจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวจากกระเพาะไปสู่ลำไส้อย่างช้า ๆ ทำให้รู้สึกอิ่มนานกว่า (delayed gastric emptying) กินอาหารที่ไม่มีเส้นใย จากการวิจัย ค้นพบว่า ผู้ที่กินอาหารที่มีเส้นใย มีรูปร่างเพรียวกว่า และมีแนวโน้มที่จะอ้วนน้อยกว่า เส้นใยอาหาร มี 2 ชนิดคือ ละลายน้ำได้ (Soluble Fiber) และละลายน้ำไม่ได้ (Insoluble Fiber) เส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ถ้าเอาเส้นใยอาหารชนิดนี้กวนในน้ำร้อน เส้นใยจะละลายได้ ในท้องคนเร

ภัยพิบัติ ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

ภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ภูมิอากาศ ปีนี้ 2554 ดูจะเปลี่ยนแปลงเลวร้ายเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น เป็นไปได้อย่างไร เดือนมีนาคม 2554 อากาศร้อนมาก แต่วันรุ่งขึ้นฝนตกหนัก อากาศหนาว ประมาณ 17 องศาเซลเซียส หรือน้อยกว่า หนาวมากกว่าเดือนมกราหน้าหนาวเสียอีก วันก่อน ฝนตกหนักแต่แดดออกเปรี้ยง ไม่ใช่เจอครั้งเดียว เจอหลายครัง ญี่ปุ่นแผ่นดินไหว เกิดซึนามิ โรงไฟฟ้านิเคลียร์ระเบิด พม่าเกิดแผ่นดินไหว วันนี้ 30 มีนาคม 2554 ภาคใต้หลายจังหวัด กำลังถูกน้ำท่วม นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และอีกหลายจังหวัด ธรรมดา เดือนมีนาคม เป็นเดือนแห่งการท่องเที่ยว ฟ้าใส ทะเลสวย แต่วันนี้ มีแต่คลื่นลม คุยกับคุณยาย อายุ 70 กว่า บอกว่า เกิดมาก็ไม่เคยเห็นที่เป็นเช่นนี้ ลมฟ้าอากาศ เปลี่ยนแปลงไปมาก ผมอายุ 59 สมัยเด็กเดินลุยโคลนปลักควายไปโรงเรียน สองข้างทางเป็นป่าไผ่ และไม้ยืนต้น ต้นจัน ต้นโพ ต้นมะเกลือ ต้นข่อย ต้นตะโก ต้นมะขามเทศ และอีกเยอะแยะ ทำนาใช้ควายไถนา เข้าเมืองนั่งเรือหางยาว ชั่วโมงกว่า จะไปพิษณุโลก ต้องออกเดินทางตั้งแต่เย็น เช้าจึงถึง ใช้เวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เดี๋ยวนี้ ถนนปลักควายเดินเป็นถนนลาดย

แตงกวา

รูปภาพ
แตงกวา อาหารที่ทุกคนรู้จัก เป็นพืชผักที่มีมาแต่โบราณ นับพันปี คนอียิปต์ กรีก และโรมัน เคยใช้เป็นสมุนไพรรักษาผิว แตงกวามีน้ำและเส้นใยอาหาร ถ้ากินประจำจะมีประโยชน์ช่วยชำระล้างของเสียออกจากร่างกาย ขับปัสสาวะ (diuretic) และเป็นยาระบาย(laxative)สร้างความสมบูรณ์ของร่างกาย ผิวผ่องพรรณ กรด caffeic ในผลแตงกวา ช่วยลดการระคายเคืองของผิวหนัง และบรรเทาอาการบวม แดง ได้ แตงกวามี แคลอลี่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน แตงกวาอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกาย แตงกวามีวิตามินซีมาก ช่วยการสร้างเซลล์ สร้างความต้านทานโรค และเป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง กินแตงกวาควรกินทั้งลูก เพราะผิวของแตงกวามีประโยชน์ ผิวของแตงกวา มีเส้นใยอาหารจำนวนมาก มีโปแตสเซี่ยม ช่วยในเรื่องความดันเลือดสูง และบำรุงหัวใจ นอกจากนี้ ผิวแตงกวา ยังมีแมกนีเซียม ช่วยให้กระดูกแข็งแรง บำรุงสมอง และมีโมลิบดินัม(Molybdenum)ที่ทำหน้าที่เป็นน้ำย่อย ช่วยย่อยสลายธาตุเหล็ก และไขมัน ในแตงกวายังมี ซิลิกา (Silica)ซึ่งมีในเนื้อเยื่อเกี่ยวกับพัน(connective tissue)ซึ่งเชื่อมโยงยึดเหนี่ยวอวัยวะและโครงสร้างต่าง ๆ

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดในญี่ปุ่น

พอโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เมื่องฟูกูชิมะ (Fukushima) ของญี่ปุ่นระเบิด ก็มีคำถามว่า แล้วสารกัมมันตรังสีที่ฟุ้งกระจายออกมา จะมาถึงเมืองไทยหรือไม่ บางคนบอกว่า อย่าออกไปตากฝน มิฉะนั้นจะเป็นอันตราย คำตอบก็คือ ไม่น่าจะต้องวิตกมากจนเกินไป สารกัมมันตรังสีไม่น่าจะมาถึงเมืองไทย จากการให้สัมภาษณ์ของ ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ยืนยันว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดในประเทศญี่ปุ่น ไม่กระทบประเทศไทยแน่ เนื่องจากทิศทางลมไม่มุ่งเข้าสู่ประเทศไทย แต่พาออกไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ไปทางฝั่งประเทศอเมริกา และการตรวจวัดปริมาณกัมมันตภาพรังสีในประเทศไทยจาก 8 สถานีเฝ้าระวังภัยทางรังสีของประเทศไทยทั่วประเทศ พบว่า ค่าดัชนีที่วัดได้ยังอยู่ในระดับปกติเช่นเดียวกับก่อนเกิดเหตุโรงไฟฟ้าระเบิดที่ญี่ปุ่น นอกจากนี้ นายปรีชา การสุทธิ์ อดีตนายกสมาคมนิวเคลียร์ กล่าวว่า สารเคมีที่ระเบิดออกมาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นกระจายไปทางทิศทางตะวันออกเฉียงเหนือ เเถบแคนนาดาและอเมริกา ที่สำคัญสารเคมีดังกล่าวมีอายุสั้นเพียง 1 เดือน ก็จะสลายตัวไปในอากาศจนหมด จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชานและสิ่งแวดล้อม การ

มะเขือเทศ

รูปภาพ
มะเขือเทศ ใช้ทำอาหารหลายอย่าง โดยเฉพาะส้มตำ ขาดมะเขือเทศไม่ได้เลย มะเขือเทศมีประโยชน์ มีแคลอลี่ ไขมัน และโซเดียม ต่ำ ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง และหัวใจวายได้ ในมะเขือเทศมีสารอาหารหลายอย่าง เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค เส้นใยอาหาร คาร์โบไฮเดรท โปแตสเซี่ยม เหล็ก Lycopene (ต้านอนุมูลอิสระ) ฟอสฟอรัส และ กำมะถัน เป็นต้น สารต่อต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ในมะเขือเทศ ช่วยขจัดสารพิษ (toxic compounds) ออกจากร่างกาย Lycopene ช่วยทำให้อนุมูลอิสระ (free radicals) มีความเป็นกลาง หมดฤทธิ์ในการทำลายเซลล์อื่น ๆ ทำให้ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก (prostate cancer) ผู้ที่รับประทานมะเขือเทศดิบ จะมีความเสี่ยงน้อยต่อมะเร็งลำไส้ มะเขือเทศ ต้านทานผลของ nitrosamines ทำให้ลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว วิตามินเค ในมะเขือเทศ ทำให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันภาวะ hemorrhages รุนแรงเนื่องจากมีเลือดออกอย่างต่อเนื่อง วิตามินเค ช่วยให้เลือดแข็งตัว และปกป้องหัวใจ ผู้ที่รับประทานมะเขือเทศดิบ จะทำให้ผิวสวย ผ่องใส มะเขือเทศมีคุณสมบัติในการฟอกเลือด ทำให้เลือดบริสุทธิ์ มะเขือเทศดีสำหรับตับ ช่วยป้อง

การสร้างเมนูบนริบบิ้น แบบกำหนดเอง สำหรับ MS Access 2007 (Custom Ribbon)

รูปภาพ
ริบบิ้น เริ่มเข้ามาในชุดของ Office 2007 เป็นการเลิกใช้เมนูแบบเก่า สำหรับผู้เขียนโปรแกรมสามารถเปลี่ยนแปลงเมนูบนริบบิ้นใหม่ ให้เข้ากับลักษณะของแต่ละโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นได้ การสร้างริบบิ้นแบบกำหนดเอง (Custom Ribbon) ทำได้หลายวิธี วิธีต่อไปนี้ จะใช้ตารางระบบ ของ MS Office ชื่อ USysRibbons เพื่อกำหนดแท็บ กลุ่ม และคำสั่งบนริบบิ้น ซึ่งใช้ XML เป็นตัวกำหนด (โปรด ดาวน์โหลดไฟล์ ตัวอย่าง customRibbon1.accdb ได้ คลิกที่นี่ ) ในตัวอย่างนี้ จะใช้หน้าจอของ MS Access 2010 เป็นตัวอย่างนะครับ ก่อนอื่นต้องทำให้มองเห็นตารางระบบของ MS Access ก่อน มิฉะนั้นเมื่อเราสร้างตารางระบบแล้ว จะมองไม่เห็น วิธีการมีดังนี้ เปิดโปรแกรมแล้วคลิกขวาที่ Navigation bar เลือก ตัวเลือกการนำทาง จะเปิดหน้าต่างใหม่ ให้คลิกเครื่องหมายถูกเพื่อเลือกใหแสดง วัตถุของระบบ ต่อมาควรเปิดให้แสดงข้อผิดพลาด เพื่อจะได้รู้ที่ผิดและแก้ไขได้สะดวกขึ้น ไปที่ ปุ่ม Office > ตัวเลือกของ Access > ตัวออกแบบวัตถุ > เปิดใช้งานการตรวจสอบข้อผิดพลาด สร้างตารางระบบชื่อ USysRibbons เป็นการสร้างตารางโดยทั่วไป กำหนดให้มีฟิลด์ 3 ฟิล

โรคเบาหวาน

รูปภาพ
โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง และก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดปัญหากับ ฟันและเหงือก ตา ไต หัวใจ หลอดเลือดแดง โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ โรคเบาหวานมีหลายชนิด คนส่วนใหญ่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 (Type 2 diabetes) โรคเบาหวานประเภทที่ 2 เกิดในผู้ป่วยอายุมากกว่า30ปี และมักจะอ้วน ผู้ป่วยเบาหวานชนิดนี้ อาการค่อยๆเป็นโดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเรื้อรังที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน และก่อให้เกิดการตายของผู้ป่วยจากภาวะแทรกซ้อนในหลอดเลือดแดงขนาดเล็ก และหลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ โดยภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยนั้น ได้แก่ ภาวะแทรกซ้อนทางตา (Retinopathy) ไต (Nephropathy) ระบบประสาท (Neuropathy) และโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนั้น สาเหตุการตายที่สำคัญในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 คือจากภาวะแทรกซ้อนของโรคหลอดเลือดหัวใจ สำหรับผู้ที่ยังไม่เป็นเบาหวาน ท่านมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานกันทุกคน เราจะลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานกันอย่างไร วิธีลดอัตราการเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ประเภทที่ 2 ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานมีหลายประการ เช่น สภาพแวดล้อม และกรรมพันธ

ผักกาดขาวปลี (Chinese cabbage)

รูปภาพ
ผักกาดขาวปลี (chinese cabbage) ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย มีไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) และคอเลสเตอรอล (Cholesterol)ต่ำ แต่อุดมไปด้วยเส้นใย (Dietary fiber)วิตามินและเกลือแร่ คือ วิตามินซี วิตามินเค โฟเลต (Folate) โปแตสเซี่ยม แมงกานิส วิตามินเอ Thiamin วิตามินบี 6 แคลเซี่ยม เหล็ก และแมกนีเซียม ผักกาดขาวปลี เหมาะสำหรับการบำรุงสุขภาพ และผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก กินผักกาดขาวปลี ช่วยได้นะครับ โดยเฉพาะ โฟเลต (Folate) ที่มีมากในผักกาดขาวปลี เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ในระยะ 3 เดือนแรก ถ้าแม่ได้รับโฟเลตน้อยเกินไป การสร้างระบบประสาทและ DNA ของทารกอาจผิดปรกติได้ วารสารวิจัยโรคมะเร็ง (Journal of Cancer Reserch) รายงานจากผลการวิจัยซึ่งใช้ประขากรกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเพศหญิงจำนวน 300 คน พบว่า สตรีที่รับประทานผักประเภทผักกาด (Brassica) เป็นประจำ ช่วยลดการเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม สำหรับผู้ที่พอมีที่ดินทำสวนครัวได้ ผมสนับสนุนให้ปลูกผักกาดกินเองนะครับ ผักกาดปลูกง่าย ใช้เวลาสั้น และยังเป็นการพักผ่อน ออกกำลังกายไปด้วยในตัว หาซื้อเมล็ดพันธ์ผักได้ตามร้านขายเมล็ดพันธ์ผักทั่วไปในตลาดใกล้

การใช้ตาราง ใน Blogspot

เนื่องจาก Blogspot เพิ่มโค้ดการขึ้นบรรทัดใหม่ให้ทุกครั้งที่มีการกด Enter ดังนั้น ถ้าใช้ตารางที่มีหลาย ๆ แถว ใน Blogspot จะทำให้มีช่องว่างก่อนหน้าตารางจำนวนมาก วิธีการแก้ไขคือ เขียนโค้ดตารางให้ติดต่อกัน เป็นบรรทัดเดียว จะได้ไม่ต้องกด Enter วิธีนี้ จะทำให้ตารางไม่มีช่องว่างก่อนหน้า ตัวอย่างที่ 1 โค้ดที่จะมีช่องว่างก่อนหน้าตาราง <table border="1" cellspacing="0" cellpadding="3" width="50%" align="center"> <tr><td>A</td><td>B</td></tr> <tr><td>C</td><td>D</td></tr> </table> โค้ดข้างล่างนี้ เขียนติดกันเป็นบรรทัดเดียว ทำให้ตารางไม่มีช่องว่างก่อนหน้าตาราง เทคนิค คือ เขียนโค้ดตารางแบบธรรมดา ตามตัวอย่างที่ 1 ก่อน โดยขึ้นบรรทัดใหม่ เพื่อให้ดูง่าย เมื่อเสร็จแล้ว จึงลบให้เป็นบรรทัดเดียวกันหมด ตัวอย่างที่ 2 โค้ดที่ไม่มีช่องว่างหน้าตาราง <table border="1" cellspacing="0" cellpadding="3" width="50%" align=&quo

Keybord shortcut สำหรับ MS Excel ทุกเวอร์ชั่น

Shortcut ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว โดยเฉพาะ Excel ถ้าใช้ Shortcut กับการทำงานที่ต้องทำบ่อย ๆ จะทำให้ทำงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ การเลือกเซลล์ การใช้ Fill handle แทนที่จะใช้เมาส์กดแล้วลาก จะไม่ค่อยสะดวกมากนัก โดยเฉพาะ ถ้ามีข้อมูลยาว ๆ เกินหนึ่งหน้าขึ้นไป การควบคุมทำได้ค่อนข้างลำบาก แต่ถ้าใช้ Keyborar shortcut โดยการกดปุ่มบนแป้นพิมพ์ จะทำงานได้สะดวก และรวดเร็วขึ้น Keybord shortcut ที่ใช้บ่อย ที่ควรทราบ มีดังนี้ การพิมพ์และการแก้ไข Ctrl + Enter ออกจากโหมดป้อนค่า หรือแก้ไข โดยไม่เปลี่ยนตำแหน่งเซลล์ วิธีนี้ทำให้ทำงานเร็วขึ้น โดยเฉพาะถ้าต้องการลาก Fill handle ในเซลล์นั้น ๆ เพราะไม่ต้องกลับมาคลิกใหม่อีกครั้งหนึ่ง F2 แก้ไขข้อมูลในเซลล์ Alt + Enter บังคับให้ขึ้นบรรทัดใหม่ภายในเซลล์เดียวกัน แม้ว่าจะขยายความกว้างของเซลล์ไปมากเท่าไดก็ตาม ส่วนที่บังคับให้ขึ้นบรรทัดใหม่ จะไม่เปลี่ยนแปลง F12 บันทึกเป็น Ctrl + C คัดลอกเซลล์ที่กำลังถูกเลือก Esc ยกเลิกการคัดลอก Ctrl + V วางเซลล์ที่คัดลอก Ctrl + X ตัดเซลล์ที่กำลังถูกเลือก Ctrl + Alt + V ถ้ามีการคัดลอกข้อมูลไว้แล้ว จะแสดงหน้าต่างการวางแบบ

กากน้ำตาล

กากน้ำตาล (molasses) เป็นของเหลวที่มีลักษณะข้นเหนียวสีน้ำตาลดำ ที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาลทรายจากอ้อย เนื่องจากกรรมวิธีการผลิตน้ำตาลทรายจากอ้อยนั้น เริ่มจากการนำอ้อยเข้าหีบได้น้ำอ้อย กรองเอากากออกจากน้ำอ้อยแล้วเคี่ยว น้ำอ้อยจนได้ผลึกของน้ำตาลทรายตกตะกอนออกมา แยกผลึกน้ำตาลทรายด้วยหม้อปั่น (centrifuge) ผลพลอยได้ที่สำคัญจาก การผลิตน้ำตาลทรายด้วยวิธีนี้ได้แก่ กากน้ำตาล ขี้ตะกอน (filter cake) และกากอ้อย (bagasses) กากน้ำตาล เป็นอาหารจุลินทรีย์ มีการนำไปใช้ทำปุ๋ยชีวภาพ หรือไปทำน้ำหมักชีวภาพ กากน้ำตาลใช้เป็นปุ๋ยได้ เพราะในกากน้ำตาลมี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับพืช โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กากน้ำน้ำตาลช่วยกระบวนการเปลี่ยนแปลงสารอาหารทางเคมี ทำให้สารจุลินทรีย์ และพืชสามารถนำไปใช้ได้ กากน้ำตาลถ้าจะให้ได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น ควรใช้ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ ฉีดพ่นไปที่พืชโดยตรง กากน้ำตาลมีประโยชน์ต่อเกษตรอินทรีย์ ที่ปลอดภัยต่อคนและสิ่งแวดล้อม ปลูกผักกินเอง ช่วยประหยัดและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แหล่งซื้อกากน้ำตาล (ไม่ใช่สปอนเซอร์นะครับ เอามาลงไว้เพื่อให้ใช้ประโยช

ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ

รูปภาพ
วันก่อนผ่านไปทางหัวหิน เลยแวะร้านดอยคำ โครงการหลวงซึ่งอยู่ใกล้ ๆ โรงแรมหัวหินแกรนด์ ไปพบปุ๋ยอินทรีย์น้ำดอยคำ ของโครงการหลวง เป็นปุ๋ยน้ำสูตรเข้มข้น ผมปลูกสวนครัวหน้าบ้าน 2-3 แปลง เล็ก ๆ ก็เลยสนใจ ซื้อมาใช้ และเอาข้อมูลมาแบ่งปันกัน เจอของดีก็ต้องเอามาบอก ร้านดอยคำ มีอยู่ทั่วไป ใครผ่านไปก็แวะไปดูได้นะครับ ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ คือ ธาตุอาหารพืชในรูปสารอินทรีย์ สกัดจากโปรตีนธรรมชาติ ซึ่งพืชสามารถดูดใช้ได้ทันที อย่างปลอดภัย ส่วนประกอบสำคัญประกอบด้วย ธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง อาหารเสริม และกรดอะมิโน ที่มีส่วนเร่งการเจริญเติบโต เพิ่มความสมบูรณ์แข็งแรงให้แก่ต้นพืช และช่วยฟื้นฟูสภาพดินให้ร่วนซุย เมื่อฉีดพ่นทางดิน นั่นเป็นสรรพคุณที่เขียนไว้ข้างถังปุ่ยอินทรีย์น้ำ สูตรเข้มข้น ของดอยคำ ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ของดอยคำ ใช้ได้กับพืชผัก ไม้ผล ไม้ดอกไม้ประดับ พืชไร่ และใช้แช่เมล็ดพันธ์ หรือท่อนพันธ์ก่อนปลูก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ของดอยคำ ได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนั้น จึงเป็นการประกันคุณภาพได้อยู่แล้ว อัตราการใช้ ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช เช่น ถ้าเป็นผัก เช่น พริก มะเขือ แตงกวา คะน้า ผักกาดขาว เป

ไขมัน โอเมก้า ทรี (Omega-3 fats)

รูปภาพ
ไขมัน โอเมก้า ทรี หรือ โอเมก้า 3(Omega-3 fats)จัดเป็นไขมันที่ดี มีประโยชน์ ช่วยบำรุงสุขภาพ แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างไขมันชนิดนี้ได้ ต้องได้จากการกินอาหาร โอเมก้า ทรี มีมากในอาหารทะเล เช่น ปลาทู (mackerel)ปลาซาดีน (sardines) (ปลากระป๋อง หลายยี่ห้อ ทำมาจากปลาซาดีน บางยี่ห้อทำมาจากปลาทู รายละเอียดจะอยู่ที่ฉลากปลากระป๋อง) นอกจากนี้ ยังมีใน ปลาทูน่า และปลาแซลมอน(ปลาทูน่า ไม่ใช่ปลาทูที่อยู่ในเข่งที่ซื้อจากตลาดนะครับ ปลาทูน่าตัวใหญ่มาก เหมือนในรูปที่นำมาให้ดู ปลาทูในเข่งที่ขายในตลาด คือ ปลา mackerel) นอกจากนี้ ยังมีในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง (Soybean oil)และน้ำมันเมล็ดทานตะวัน อีกด้วย โอเมก้า ทรี มีประโยชน์ช่วยการทำงานของสมอง ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ สมาคมหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (The American Heart Association)แนะนำว่า ควรรับประทานปลา เช่น ปลาทู ปลาซาดีน อย่างน้อย อาทิตย์ละ 2 ครั้ง โอเมก้า ทรี บำรุงสมอง ช่วยให้ความจำดี เด็กในครรภ์มารดาถ้าได้รับโอเมก้าทรีไม่พอจะเสี่ยงต่อพัฒนาการด้านสายตา และมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท (nerve problems)อาการที่คนขาดโอเมก้าทรี เช่น เมื่อยล่า ความจำไม่ดี